[คำที่ ๑๓๔] สจฺจธมฺม
ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ “สจฺจธมฺม”
คำว่า สจฺจธมฺม เป็นคำภาษาบาลีโดยตรง อ่านตามภาษาบาลีว่า สัด - จะ - ทำ - มะ เขียนเป็นไทยได้ว่า สัจจธรรม หรือ สัจธรรม แปลว่า สิ่งที่มีจริง ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะเป็นอย่างอื่น เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ครอบคลุมสิ่งที่มีจริงๆ ทั้งหมด ซึ่งเป็นจริงแต่ละหนึ่ง โดยไม่ปะปนกัน ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม มีจริงในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใดก็ตาม ความเป็นจริงของสัจจธรรม จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดังข้อความจาก พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต อุปปาทสูตร ว่า
“ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เพราะพระตถาคตทั้งหลาย เกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ตาม ธาตุ นั้น คือความตั้งอยู่ ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้น ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า สังขาร (ธรรมที่เกิดเพราะปัจจัยปรุงแต่ง) ทั้งปวง ไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา (ไม่ใช่ตัวตน) ครั้นได้ตรัสรู้แล้ว ได้หยั่งรู้แล้ว จึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้ตื้น ว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา”.
สัจจธรรม หมายถึง สิ่งที่มีจริง สามารถพิสูจน์ได้ทุกขณะว่าเป็นสิ่งที่มีจริง ไม่ว่าจะได้เห็น ได้ยินได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก ดีใจ เสียใจ ความดี ความชั่ว ติดข้องยินดีพอใจ หงุดหงิด โกรธขุ่นเคือง ไม่พอใจ เป็นต้น ล้วนเป็นธรรมทั้งหมด สัจจธรรม กับ ธรรม มีความหมายอย่างเดียวกัน, เมื่อกล่าวถึงธรรม แล้ว ไม่ได้หมายถึงเพียงธรรมฝ่ายดีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่หมายรวมถึงสิ่งที่มีจริงทั้งหมด ชีวิตประจำวันที่ดำเนินไปนั้นไม่พ้นไปจากธรรมเลย แต่เมื่อไม่ได้ศึกษา ย่อมไม่สามารถจะรู้ได้ว่าเป็นธรรม เพราะแท้ที่จริงแล้ว ทุกขณะเป็นธรรม มีจิต (สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์) เจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต) รูป (สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร) เกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอดเวลา จิต เจตสิก รูป นั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ที่ไม่เที่ยงนั้นเพราะเกิดแล้วดับไป สภาพธรรมที่เกิดแล้วดับไปนั้น เป็นทุกข์ เป็นทุกข์เพราะเหตุว่าตั้งอยู่ไม่ได้ เกิดแล้วต้องดับไปเป็นธรรมดา เมื่อไม่เที่ยง เป็นทุกข์ จึงเป็นอนัตตา คือ ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใด ธรรม ก็เป็นธรรม เป็นสัจจธรรม เป็นความจริง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างอื่น เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ถ้าเป็นกาลเวลาที่ว่างจากพระพุทธศาสนา ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก สัตว์โลกก็จะไม่สามารถเข้าใจสัจจธรรมได้เลย เพราะไม่มีผู้ทรงตรัสรู้และทรงแสดงความจริงให้ฟัง แต่ถ้าเป็นกาลสมัยที่มีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก เมื่อนั้น ก็จะมีการทรงแสดงพระธรรมอนุเคราะห์ให้สัตว์โลกได้เข้าใจ จากที่ไม่รู้ ก็จะค่อยๆ รู้ขึ้นไปตามลำดับ ด้วยพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ความเข้าใจจะเจริญขึ้นได้ ต้องได้ฟังพระธรรม
ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียด ยากที่จะเข้าใจ แต่ก็สามารถที่จะเข้าใจได้ ฟังจนกว่าจะมั่นคงจริงๆ ว่า ไม่มีเรา มีแต่ธรรม จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรม เพื่อเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง เนื่องจากเราคุ้นเคยกับความเป็นตัวตน คุ้นเคยกับความเป็นเรา พร้อมทั้งได้สะสมความไม่รู้มาอย่างเนิ่นนาน จึงหลงยึดถือสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด ดังนั้น จึงควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาธรรม เพื่อความเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง ซึ่งจะเป็นไปเพื่อละคลายความไม่รู้ ละความเห็นผิดในสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคลได้ในที่สุด.
อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ