[คำที่ ๓o๑] วิมุตฺ

 
Sudhipong.U
วันที่  1 มิ.ย. 2560
หมายเลข  32421
อ่าน  402

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ วิมุตฺติสาร

คำว่า วิมุตฺติสาร เป็นคำภาษาบาลีโดยตรง [อ่านออกเสียงตามภาษาบาลี ว่า วิ - มุด – ติ - สา - ระ] มาจากคำว่า วิมุตฺติ (ความหลุดพ้นจากกิเลส) กับคำว่า สาร (แก่น, ประโยชน์, สำคัญ) รวมกันเป็น วิมุตฺติสาร เขียนเป็นไทยได้ว่า วิมุตติสาระ แปลว่า สิ่งที่เป็นสาระคือความหลุดพ้น แสดงถึงความหลุดพ้นจากกิเลสตามลำดับขั้น และ แสดงถึงสภาพธรรมที่เป็นพระนิพพาน ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ เป็นสภาพธรรมที่ดับทุกข์ดับกิเลส ข้อความจาก พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต สารสูตร แสดงสิ่งที่เป็นสาระ ไว้ รวมถึงวิมุตติสาระ ด้วย ดังนี้ว่า

“ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สาระ ๔ นี้ คือ สีลสาระ ๑ สมาธิสาระ ๑ ปัญญาสาระ ๑ วิมุตติสาระ ๑ นี้แล สาระ ๔ ประการ”


พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นคำจริง เป็นคำอนุเคราะห์เกื้อกูลให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริง เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกของผู้ที่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง ซึ่งต้องเป็นผู้เห็นประโยชน์ของพระธรรม เคยสะสมบุญมาแล้วตั้งแต่ปางก่อนเท่านั้น ที่จะได้ฟังได้ศึกษา ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า สิ่งใดเป็นสาระ และสิ่งใดไม่เป็นสาระ และอาจจะทำให้ตนเองหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ไม่เป็นสาระ โดยหลงผิดว่าเป็นสิ่งที่เป็นสาระ ก็ได้ ด้วยความติดข้องต้องการบ้าง ด้วยความเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงบ้าง ตามความเป็นจริงแล้ว สาระ หมายถึง สิ่งที่เป็นแก่น สิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งที่สำคัญ โดยที่ไม่ได้หมายถึงการได้รูป เสียง รส กลิ่น และ สิ่งที่กระทบสัมผัสกายที่ดี ที่น่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจแล้วก็หลงยึดติดแต่อย่างใด และ ไม่ใช่การไปสู่ที่หนึ่งที่ใดที่เข้าใจผิดว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เพราะสถานที่ปฏิบัติธรรมหรือสำนักปฏิบัติธรรม ไม่มีในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่หมายถึงกุศลธรรมตามลำดับขั้น จึงจะเป็นสาระ เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ในโลกหน้า และประโยชน์อย่างยิ่ง คือ การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ดับกิเลสตามลำดับขั้น ถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ตั้งแต่พระโสดาบัน จนถึงความเป็นพระอรหันต์

สาระ ทั้ง ๔ ประการ นั้น ความเข้าใจเบื้องต้น คือ สีลสาระ (ศีลเป็นสาระ) ได้แก่ ความประพฤติทางกาย ทางวาจาที่ดีงาม งดเว้นจากทุจริตกรรมประการต่างๆ แล้วน้อมประพฤติในสิ่งที่ดีงามในชีวิตประจำวัน ขัดเกลากิเลสของตนเอง สมาธิสาระ ต้องหมายถึงสัมมาสมาธิ ความตั้งมั่นชอบเป็นไปในกุศลธรรม ตั้งมั่นในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏที่สติและปัญญาสามารถระลึกตรงลักษณะและรู้ตามความเป็นจริง ปัญญาสาระ ได้แก่สภาพธรรมที่เข้าใจถูกเห็นถูกทุกระดับขั้น เข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ปัญญานำไปในกิจทั้งปวงที่เป็นกุศล ปัญญาไม่นำพาไปในทางที่ผิด วิมุตติสาระ สาระ คือ การหลุดพ้นจากกิเลส ประโยชน์สูงสุดของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็คือ เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งจะขาดปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้น ไม่ได้

สภาพธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงนั้น เป็นเพียงสิ่งที่เกิดปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตแต่ละประเภท แต่ละขณะ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป รูปทุกรูปเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่มีอะไรเหลือ สภาพธรรมที่เกิดดับ หาสาระไม่ได้ ไม่มีสาระ เป็นสิ่งที่ไม่ควรแก่การยินดีติดข้อง เพราะเป็นสภาพธรรมที่ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน เกิดแล้วดับไป เพราะฉะนั้น สาระจริงๆ อยู่ที่ความเข้าใจสิ่งที่มีจริง ตามความเป็นจริง ที่เริ่มต้นจากการฟังสิ่งที่มีจริงๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ทุกครั้งที่ฟังพระธรรม ก็เป็นการสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นไปเพื่อละคลายการยึดถือสภาพธรรม ว่า เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคลได้ในที่สุด

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลก จึงได้ทรงแสดงพระธรรม แต่ละคำๆ ตลอด ๔๕ พรรษา ก็เพื่อให้พุทธบริษัทเกิดปัญญา ความเข้าใจ ถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง เพื่อขัดเกลากิเลส เพื่อละความไม่รู้ สูงสุด คือ เพื่อวิมุตติสาระ ความหลุดพ้นจากกิเลสทั้งหลายตามลำดับขั้น

เนื่องจากว่าแต่ละบุคคลได้สะสมกิเลสมามากด้วยกันทั้งนั้นในสังสารวัฏฏ์ ทั้งโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น การที่จะไปถึงวิมุตติสาระ ซึ่งเป็นการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงนั้น จึงเป็นเรื่องที่ยากและไกลแสนไกลอย่างยิ่ง กว่าที่ปัญญาจะถึงระดับขั้นดังกล่าวได้นั้น ก็จะต้องค่อยๆ อบรมเจริญขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จากการฟัง การศึกษาในชีวิตประจำวัน และประการที่สำคัญ ต้องเป็นปัญญาของตนเองที่รู้จริงๆ ว่า ความเข้าใจในสภาพธรรม เพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น จึงต้องฟัง ต้องศึกษาพระธรรมด้วยความอดทน ด้วยความละเอียด รอบคอบ ด้วยความจริงใจ ต่อไป เพราะบุคคลผู้ที่เข้าใจพระธรรมเท่านั้น จึงจะได้สาระจากพระธรรม และชีวิตก็จะมีสาระมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นไปกับด้วยกุศลธรรม มีความเข้าใจถูกเห็นถูกเพิ่มขึ้น รู้ถึงสิ่งที่ไม่เป็นสาระและเป็นสาระตามความเป็นจริง แล้วงดเว้นจากสิ่งที่ไม่เป็นสาระคือกุศลทั้งหลาย พร้อมทั้งสะสมสิ่งที่เป็นสาระยิ่งขึ้น จนกว่าจะถึงความสมบูรณ์ของปัญญาที่สามารถดับกิเลสตามลำดับขั้นได้ในที่สุด อันเป็นผลสูงสุดในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องของปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด.


อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 12 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ