[คำที่ ๓๓๓] ปชฺโชต

 
Sudhipong.U
วันที่  11 ม.ค. 2561
หมายเลข  32453
อ่าน  258

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ ปชฺโชต

คำว่า ปชฺโชต เป็นคำภาษาบาลีโดยตรง [อ่านออกเสียงในภาษาบาลีว่า ปัด - โช - ตะ] แปลว่า แสงสว่าง มีความหมายโดยทั่วๆ ไป ที่หมายถึงแสงสว่างประเภทต่างๆ และแสดงถึงแสงสว่างที่ประเสริฐที่สุดคือ พระปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้ทรงตรัสรู้และทรงแสดงพระธรรมประกาศความจริงเกื้อกูลให้สัตว์โลกได้เกิดปัญญาเป็นแสงสว่างที่สามารถเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง

ข้อความใน พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ปัชโชตสูตร แสดงถึงแสงสว่างไว้ ดังนี้ คือ

“แสงสว่างทั้งหลายในโลกมีอยู่ ๔ อย่าง แสงสว่าง ที่ ๕ มิได้มี ในโลกนี้, ดวงอาทิตย์ ส่องสว่าง ในเวลากลางวัน, ดวงจันทร์ ส่องสว่าง ในเวลากลางคืน, อนึ่ง ไฟ ย่อมรุ่งเรือง ในเวลากลางวัน และ เวลากลางคืน, พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประเสริฐกว่า แสงสว่างทั้งหลาย, แสงสว่าง ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นแสงสว่าง อย่างยอดเยี่ยม”


ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง และมีจริงในขณะนี้ด้วย ไม่ต้องไปแสวงหาธรรมที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นขณะใดก็ตามไม่พ้นไปจากธรรมเลย มีแต่จิต (สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์) เจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต) และ รูป (สภาพธรรมที่ไม่รู้อารมณ์,ไม่ใช่สภาพรู้) เท่านั้น ที่เกิดขึ้นเป็นไปจริงๆ และแต่ละคนก็เป็นแต่ละหนึ่ง ไม่เหมือนกันเลย ก่อนที่จะได้เกิดมาเป็นบุคคลนี้ในชาตินี้ ก็เกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน และยังจะต้องเกิด เป็นไปอีกนานแสนนานในสังสารวัฏฏ์จนกว่าจะได้อบรมเจริญปัญญา จนกระทั่งรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้นถึงความเป็นพระอรหันต์ ปรินิพพานแล้ว ไม่ต้องมีการเกิดอีก เมื่อไม่มีการเกิด ทุกข์ใดๆ ก็ไม่มี ซึ่งจะต้องเป็นปัญญาเท่านั้นถึงจะเข้าใจธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริงได้ และปัญญาจะมาจากไหน ถ้าไม่สะสมจากการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีเป็นส่วนน้อยมากที่จะได้ฟังพระธรรม

การได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในภพนี้ชาตินี้ ก็แสดงว่าต้องเป็นผู้เคยได้สะสมเหตุที่ดีมาแล้ว เคยได้ฟังพระธรรม เคยเห็นประโยชน์ของพระธรรมมาแล้ว จึงสนใจที่จะฟัง ที่จะได้ศึกษาสะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกต่อไป ถ้าเป็นผู้ที่ไม่ได้สะสมเหตุที่ดีมา แม้เสียงของพระธรรมจะอยู่ใกล้ๆ ก็ไม่ฟัง เพราะเป็นผู้ไม่มีศรัทธา เป็นผู้ไม่เห็นประโยชน์ ไม่หลั่งศรัทธามาที่จะรองรับพระธรรม ตามความเป็นจริงแล้ว ชีวิตของผู้ที่ยังมีกิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) ก็เป็นไปกับด้วยอำนาจของกิเลสเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ โลภะ ความติดข้องยินดีพอใจในสิ่งต่างๆ และกิเลสประการอื่นๆ ด้วย ชีวิตก็เป็นไปอย่างปกติ ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ แต่ผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม แม้ว่าจะมีชีวิตเป็นไปด้วยอำนาจของกิเลสเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะได้ยินได้ฟังบ้างในวันหนึ่งๆ มากบ้าง น้อยบ้าง ตามโอกาสที่มี เป็นการอบรมเจริญปัญญาท่ามกลางอกุศลซึ่งมีมากเป็นอย่างยิ่ง เป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคล แม้เพียงเล็กน้อย ก็มีประโยชน์ เป็นประโยชน์แล้วที่ได้ยินได้ฟังในแต่ละครั้ง ซึ่งถ้าไม่เคยสะสมเหตุที่ดีอย่างนี้มาเลย ก็คงจะไม่ฟังอย่างแน่นอน แต่ที่ฟังก็เพราะเห็นประโยชน์เคยได้ยินได้ฟังพระธรรมมาแล้ว และความเข้าใจถูกเห็นถูก ก็ไม่สูญหายไปไหน สะสมสืบต่ออยู่ในจิตทุกขณะ เป็นที่พึ่งต่อไปในภายหน้า

พระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่สามารถที่จะประมาณได้เลย พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลกทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นพระราชา พราหมณ์ คฤหบดี คนมั่งมี คนยากจน หรือ มีความประพฤติไม่ดี เป็นโจรผู้ร้าย พระมหากรุณาที่ทรงอนุเคราะห์สัตว์โลกนั้น ก็ด้วยพระธรรมคำสอนของพระองค์ ที่เป็นแสงสว่าง เกื้อกูลให้เกิดปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก ทำลายความมืดคืออวิชชา (ความไม่รู้) เพราะมีอวิชชานี้เองจึงทำให้ไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง เป็นเหตุให้ประพฤติในสิ่งที่ผิดประการต่างๆ มากมาย

เป็นที่น่าพิจารณา ว่า ถึงแม้ว่าวันหนึ่งๆ ชีวิตของเราจะเต็มไปด้วยกิเลสนานาประการ ถูกกิเลสครอบงำและลุกโพลงอยู่ในจิตใจตลอดเวลา ทั้งความติดข้องยินดีพอใจ ความโกรธขุ่นเคืองใจ ความไม่พอใจ และกิเลสตัวสำคัญ คือ อวิชชา ความไม่รู้ เป็นต้น ซึ่งเป็นปกติของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็ตาม แต่สิ่งที่ควรมีเป็นอย่างยิ่งนั้น ก็คือ ความมั่นคง จริงใจ และมีศรัทธาที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาต่อไป เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง เพื่อละคลายความมืด คือ อวิชชา ไปทีละเล็กทีละน้อย ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้น

การฟังพระธรรมบ่อยๆ เนืองๆ แล้วค่อยๆ เข้าใจขึ้น จึงเปรียบเสมือนค่อยๆ มีแสงสว่างส่องในที่มืด จนกว่า วิชชา คือปัญญาจะเกิดขึ้น สามารถกำจัดความมืด คือ วิชชาให้หมดสิ้นไปได้ ที่สำคัญที่สุด ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรม ก้าวต่อไปอย่างไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง โดยที่ไม่ขาดการฟังพระธรรม เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย.

 


อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 12 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ