[คำที่ ๓๗๙] สุลทธลาภ

 
Sudhipong.U
วันที่  29 พ.ย. 2561
หมายเลข  32499
อ่าน  351

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ สุลทฺธลาภ

คำว่า สุลทฺธลาภ เป็นคำภาษาบาลีโดยตรง [อ่านตามภาษาบาลีว่า สุ - ลัด - ทะ - ลา - พะ] มาจากคำว่า สุ (ดี,ด้วยดี) ลทฺธ (ได้แล้ว) กับคำว่า ลาภ (การได้,ลาภ) รวมกันเป็น สุลทฺธลาภ แปลว่า การได้ที่ได้ดีแล้ว, ลาภที่ได้แล้วด้วยดี, ได้ดี เป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะเป็นการแสดงถึงการได้ในสิ่งที่ได้ยากแสนยาก และมีค่ายิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ได้ฟังพระธรรม เห็นประโยชน์ของพระธรรม มีศรัทธาที่จะรองรับพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ตามข้อความในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ จวมานสูตร ดังนี้ คือ

“ท่านเป็นมนุษย์แล้ว จงได้ศรัทธาอย่างยิ่งในพระสัทธรรม ศรัทธาของท่านนั้น พึงเป็นคุณชาติตั้งลงมั่น มีมูล (ราก) เกิดแล้ว มั่นคงในพระสัทธรรมที่พระตถาคตประกาศดีแล้ว อันใครๆ พึงนำไปมิได้ (คือใครๆ ก็ลักขโมยไปไม่ได้ เพราะเป็นลาภที่ติดตามตนไปได้ ไม่ทั่วไปแก่คนอื่น) ตลอดชีพ”


พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นคำจริง เป็นคำอนุเคราะห์เกื้อกูลให้เข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง เกิดจากพระปัญญาตรัสรู้ของพระองค์ ที่กว่าจะได้ตรัสรู้นั้นพระองค์ต้องบำเพ็ญพระบารมีสะสมคุณความดีประการต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ยาวนานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ พระบารมีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง ให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตามจนกระทั่งถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลสในที่สุด จะเห็นได้ว่าเมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา นับคำประมาณไม่ได้ ทรงพร่ำสอนพุทธบริษัท บ่อยๆ เนืองๆ ตั้งแต่เริ่มประกาศพระศาสนาจนกระทั่งถึงเวลาที่พระองค์จวนจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า พระธรรม มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ผู้ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลส จนกว่ากิเลสจะดับหมดสิ้นไป

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทรงแสดงโดยละเอียด โดยประการทั้งปวง โดยนัยต่างๆ มากมาย ซึ่งเป็นประโยชน์เกื้อกูลทั้งนั้น รวมถึงลาภที่ได้ดีแล้ว หรือ ประมวลกล่าวให้สั้นคือ ได้ดี ว่าเป็นอย่างไร คือ ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วได้ศรัทธาในการฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แล้วมีความเจริญมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ชีวิตอย่างแท้จริง เพราะในภูมิมนุษย์สามารถอบรมเจริญกุศลคุณความดีได้ทุกอย่าง รวมถึงการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วย

การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่ยากอย่างยิ่ง เพราะจะต้องได้ด้วยผลของกุศลกรรมเท่านั้น และเมื่อได้เกิดมาแล้ว ทุกคนต้องตายอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อใด เกิดมาแล้วตายไปประโยชน์อยู่ตรงไหน? นี่คือสิ่งที่ควรจะได้พิจารณาเป็นอย่างยิ่ง ถ้าจะว่าไปแล้วทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ มีเวลาไม่มากที่จะได้ฟังพระธรรม และมีเป็นส่วนน้อยเท่านั้นที่จะได้ฟังได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว ชีวิตก็เป็นไปในเรื่องอื่น เป็นไปกับด้วยอกุศลอย่างมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับการได้ฟังพระธรรม ก็จะรู้ได้ว่าในสังสารวัฎฎ์ที่ยาวนานจนถึง ณ บัดนี้และต่อไป เวลาที่จะได้มีโอกาสฟังพระธรรม พิจารณาพระธรรมจริงๆ และเริ่มเข้าใจพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง นั้น ก็ไม่มากเลย ซึ่งจะเป็นผู้ประมาทไม่ได้เลยจริงๆ จึงเป็นโอกาสสำหรับพุทธบริษัทที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง เมื่อเห็นประโยชน์ ก็ให้เวลากับพระธรรม มีศรัทธาที่จะฟังที่จะศึกษาต่อไป ความเข้าใจถูกเห็นถูกก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น เพราะเหตุว่าความเข้าใจจะค่อยๆ มั่นคงขึ้น โดยไม่ขาดการฟังพระธรรม เพราะว่าขณะใดที่ไม่ฟัง ก็คิดถึงเรื่องอื่นทันที และอีกประการหนึ่ง ที่ควรจะได้พิจารณา คือ พระพุทธศาสนา ไม่ได้อยู่ที่อื่นเลย ไม่ได้อยู่ที่วัดวาอาราม ไม่ได้อยู่ที่เพศบรรพชิตหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเลย แต่เป็นพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นบุคคลผู้ทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วทรงแสดงความจริงให้ผู้อื่นได้รู้ตาม ซึ่งถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจธรรมตามความเป็นจริงได้ แม้พระองค์จะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ทรงดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้หมดสิ้น พร้อมทั้งทรงมีพระมหากรุณาที่จะเกื้อกูลสัตว์โลกด้วยการแสดงพระธรรม แต่บุคคลผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็ย่อมจะไม่ได้ประโยชน์จากการอุบัติขึ้นของพระองค์เลยแม้แต่น้อย ไม่ได้ในสิ่งที่ควรได้จริงๆ เพราะไม่ได้ฟังสิ่งที่มีค่าที่สุดในสังสารวัฏฏ์ ในอดีตชาติที่ผ่านมา ความไม่รู้ก็มีมากแล้ว ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทุกวันๆ คือ ไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ความไม่รู้ก็ยิ่งจะมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำให้จมลึกลงในไปเหวคือสังสารวัฏฏ์ ยากที่จะขึ้นมาได้

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น เป็นประโยชน์เกื้อกูลอย่างแท้จริง เป็นประโยชน์เกื้อกูลทั้งในปัจจุบันชาติ และ ในชาติต่อๆ ไป เพราะความเข้าใจถูกเห็นถูก สะสมอยู่ในจิต ไม่สูญหายไปไหน พร้อมทั้งยังเป็นเหตุปัจจัยให้บรรลุถึงประโยชน์อย่างยิ่ง คือ การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสตามลำดับขั้น ที่สำคัญที่สุดต้องเริ่มสะสมปัญญา จากการฟัง การศึกษาพระธรรม เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิต เพราะจะเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นแห่งปัญญาอย่างแท้จริง อันเป็นการคุ้มค่าอย่างยิ่งที่สมกับได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่ได้อย่างยากแสนยาก เพราะประโยชน์สูงสุดในชาตินี้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วมีอันจะต้องตายเป็นธรรมดา อยู่ที่การมีโอกาสได้ฟังและเข้าใจพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง.

.


อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 14 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ