[คำที่ ๔๑๑] พุทธปูชา

 
Sudhipong.U
วันที่  11 ก.ค. 2562
หมายเลข  32531
อ่าน  638

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ “พุทฺธปูชา -- บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, พุทธบูชา

คำว่า พุทฺธปูชา เป็นคำภาษาบาลีโดยตรง [อ่านตามภาษาบาลีว่า พุด – ทะ – ปู – ชา] มาจากคำว่า พุทฺธ (ผู้ทรงตรัสรู้ความจริง คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า) กับคำว่า ปูชา (การบูชา,เคารพ,นอบน้อม) รวมกันเป็น พุทฺธปูชา แปลว่า บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือแปลทับศัพท์ เป็น พุทธบูชา เป็นคำที่แสดงถึงความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมฝ่ายดีที่น้อมบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถ้ากล่าวถึงการบูชาอย่างสูงสุดที่มีต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งกว่าการบูชาด้วยอามิส (วัตถุสิ่งของ) ใดๆ คือ การบูชาด้วยความเข้าใจพระธรรม เพราะเหตุว่า การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก น้อมประพฤติตามพระธรรม จนถึงการดับกิเลสตามลำดับขั้น เป็นการน้อมบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างสูงสุด ซึ่งเป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสงค์ จึงได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ ไม่ใช่เพื่อที่จะรับดอกไม้เครื่องสักการบูชาต่างๆ แต่เพื่อที่จะทรงเกื้อกูลให้สัตว์โลกได้หมดจดจากกิเลสด้วยการน้อมประพฤติตามพระธรรม อันเนื่องมาจากได้ฟังคำจริงที่พระองค์ทรงแสดง

ข้อความในสุมังคลวิลาสินี อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร แสดงถึงความสำคัญของการบูชาที่สมควรแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไว้ดังนี้ว่า

จริงอยู่ ชื่อว่าอามิสบูชา (การบูชาด้วยวัตถุสิ่งของ) นั้น ไม่สามารถจะดำรงพระศาสนาแม้ในวันหนึ่งบ้าง แม้ชั่วดื่มข้าวยาคู (ข้าวต้ม) ครั้งหนึ่งบ้าง จริงอยู่ วิหารพันแห่ง เช่นมหาวิหาร เจดีย์พันเจดีย์ เช่นมหาเจดีย์ ก็ดำรงพระศาสนาไว้ไม่ได้ บุญ ผู้ใดทำไว้ ก็เป็นของผู้นั้นผู้เดียว ส่วนสัมมาปฏิบัติ (การปฏิบัติโดยชอบ) ชื่อว่า เป็นการบูชาที่สมควรแก่พระตถาคต, เป็นความจริง ปฏิบัติบูชา นั้น ชื่อว่า ดำรงอยู่แล้ว สามารถดำรงพระศาสนาไว้ได้ด้วย”


ประโยชน์ของการมีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง อยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก เมื่อได้ฟังได้ศึกษา ไม่ว่าจากพระสูตรใดหรือข้อความใดในพระไตรปิฎกทั้งหมด ในแต่ละครั้ง แม้จะเล็กน้อย ถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง พระธรรมที่ได้ยินได้ฟังได้ศึกษา ก็จะคอยกล่อมเกลาจิตใจให้น้อมไปในทางที่ถูกที่ควร เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมในชีวิตประจำวันขัดเกลาอกุศลธรรมซึ่งเป็นสภาพธรรมฝ่ายที่ไม่ดีที่ได้สะสมมาอย่างมากและยาวนานในสังสารวัฏฏ์

พระบารมี (คุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ทั้งหมดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสะสมอบรมมา ตั้งแต่เริ่มตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อครั้งที่ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ ก็เพื่อที่จะได้ทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งยากแสนยากที่จะรู้ได้ และเพื่อทรงแสดงความจริงให้สัตว์โลกได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกตามพระองค์ด้วย จากที่สัตว์โลกมากไปด้วยกิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) มี ความไม่รู้ ความติดข้อง และความเห็นผิด เป็นต้น ก็สามารถมีความเข้าใจถูกเห็นถูกจนกระทั่งดับกิเลสตามลำดับขั้นได้ เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ก็ทรงแสดงพระธรรมประกาศความจริง เป็นระยะเวลานานถึง ๔๕ พรรษา นับคำไม่ถ้วน ทั้งหมดทั้งปวงนั้น เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริงของผู้ที่เป็นสาวกหรือพุทธบริษัท

บุคคลผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรม ได้รับประโยชน์จากพระธรรม ก็จะไม่ละเลยโอกาสของกุศลในชีวิตประจำวัน แม้การบูชา ก็เป็นกุศล เป็นความดี ไม่ได้มีข้อบังคับห้ามว่า ไม่ให้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยเครื่องสักการบูชาต่างๆ เพราะสามารถที่จะกระทำได้ เป็นกุศล เป็นความดี เพราะสำหรับผู้ที่เข้าใจพระธรรมแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่บูชาด้วยเครื่องสักการบูชาต่างๆ เท่านั้น แต่ก็มีการฟังพระธรรมมีการศึกษาพระธรรมสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้นด้วย เพราะเข้าใจว่า การบูชาอย่างสูงสุด ก็จะต้องเป็นการบูชาด้วยการน้อมประพฤติตามพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะอบรมเจริญปัญญา เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในความเป็นจริงของสภาพธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป ขัดเกลากิเลสของตนเอง ดังนั้น ในฐานะที่เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การที่จะทำให้เกิดการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ดียิ่งนั้น จึงไม่มีทางอื่น นอกจากการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ที่พระองค์ทรงแสดงแล้วน้อมประพฤติตามเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง เพราะฉะนั้น บูชาด้วยอย่างอื่น ก็ไม่มีค่าเท่ากับการบูชาด้วยความเห็นถูก ความเข้าใจถูก เพราะความเข้าใจถูกเห็นถูกนี้เอง จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลให้กุศลจิตเกิดขึ้นเจริญขึ้นจนกระทั่งสามารถดับกิเลสได้

อีกประการหนึ่งที่สำคัญ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ของแต่ละคนเท่านั้นที่จะดำรงรักษาพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ดำรงมั่นคงสืบต่อไปได้ ผู้ที่ไม่เข้าใจพระธรรม ไม่สามารถที่จะดำรงรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้เลย มีแต่จะทำแต่สิ่งที่ผิดเป็นโทษเท่านั้นซึ่งเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา จากบุคคลผู้ที่อ้างตนว่าเป็นชาวพุทธ แต่ไม่ได้มีความเข้าใจอะไรเลย ดังนั้น จึงสำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกของผู้ที่ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมตามที่พระองค์ทรงแสดงอย่างแท้จริง ยุคนี้สมัยนี้ ยังเป็นยุคที่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังดำรงอยู่ บุคคลผู้ที่เป็นกัลยาณมิตร เผยแพร่พระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็ยังมีอยู่ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่สะสมเหตุที่ดีมาแล้ว เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง จะได้สะสมปัญญาเป็นที่พึ่งต่อไป จนกว่าจะถึงความสมบูรณ์พร้อมของปัญญาได้ในที่สุด เพราะการที่ปัญญาจะมีมาก ก็จะต้องเริ่มจากการฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก ไปทีละเล็กทีละน้อย ไม่ขาดการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน เพราะพระธรรมแต่ละคำที่แต่ละคนได้ยินได้ฟังนี้ มาจากการบำเพ็ญพระบารมีนานแสนนานของผู้ที่จะได้ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละคำคือพระมหากรุณาคุณตั้งแต่ครั้งทรงบำเพ็ญพระบารมีเป็นพระโพธิสัตว์จนกระทั่งได้ทรงตรัสรู้ ซึ่งมีค่ามากอย่างยิ่งสำหรับที่จะทำผู้ฟังผู้ศึกษาได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกตรงตามความเป็นจริง เกื้อกูลให้เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด.


อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 17 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ