ความพอใจเป็นอกุศล
ความพอใจเป็นอกุศลได้อย่างไรคับ ตั้งแต่ตื่นนอน เราก็พอใจหลายๆ อย่างแล้ว เพราะเข้าใจว่าถ้าเราโกรธใครจึงจะเป็นอกุศล ช่วยอธิบายหน่อยครับ
ควรแยกแยะระหว่างความพอใจกับความติดข้องเพราะต่างกันครับ ความพอใจจะเกิดร่วมกับกุศลก็ได้อกุศลก็ได้ แต่ความติดข้องซึ่งก็คือโลภะย่อมเป็นอกุศลอย่างเดียวแน่นอน
ความพอใจเป็นอกุศล เพราะเป็นสภาพที่ติดข้อง แม้จะไม่ได้ก้าวล่วงทุจริตกรรมก็ตาม เมื่อพอใจ ย่อมเสพคุ้น ย่อมดิ้นรนแสวงหา ทั้งในทางที่ชอบและมิชอบ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 338
อกุศลมูลสูตร
โลภะ โทสะและโมหะ เกิดแล้วในตน ย่อมเบียดเบียนบุรุษผู้มีจิตอันลามก เหมือนขุยไผ่ ย่อมเบียดเบียนไม้ไผ่ฉะนั้น.
ยังไม่จบจ๊ะ ...
ความพอใจที่เป็นกุศล หรือที่เรียกว่าฉันทะ ต้องเกี่ยวเนื่องด้วยทาน ศีล ภาวนา ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกพอใจ อะไรที่ทำให้ท่านพอใจ ถ้าเป็นภาวนาแล้วจิตต้องสงบทั้งสมถและวิปัสสนา แต่มีอารมณ์ต่างกัน
ตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมาเราก็มีโลภะแล้ว คือต้องการอาบน้ำ แปรงฟัน หรือหิวน้ำ หิวข้าว ฯลฯ นี้เป็นโลภะธรรมดาที่พวกเรามีกันอยู่แล้วเป็นพื้น แต่โลภะอันนี้ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ชาวโลกไม่ติเตียน ไม่ใช่โลภะที่มีกำลังถึงกับทำทุจริต บางคนตื่นนอนตอนเช้าก็พอใจที่จะเปิดธรรมะฟัง นี้เป็นกุศลจิต แต่บางคนเปิดเพลงฟังไปด้วยเข้าห้องไปด้วย นี้เป็นโลภมูลจิตที่พอใจจะฟังเพลง ถ้าจิตไม่ได้เป็นไปในทาน ศีลภาวนา ก็เป็น โลภะ โทสะ โมหะ
ความพอใจ เป็นอกุศลหรือกุศลก็ได้
ความพอใจที่เป็นอกุศล เป็นสภาพธัมมะที่เรียกว่า โลภะ เป็นสภาพที่ติดข้อง ถามว่าทำไมถึงเป็นอกุศล เมื่อเกิดนำมาซึ่งสิ่งที่เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ อาจจะบอกว่าดีก็ได้ เช่น พอใจในบุตร ก็มีความสุขดี ถามว่าบุตรของเราจะเป็นไปตามใจเรา ปรารถนาไหม เมื่อไม่เป็นดั่งใจทุกข์ไหม และเมื่อความพอใจมีกำลังก็ทำให้เราทำชั่วได้ครับ ดังนั้น ความพอใจ จึงเป็นอกุศล นำมาซึ่งโทษ ความพอใจที่เป็นกุศล ภาษาเขาเรียกกันว่า ฉันทะ พอใจ ต้องการที่ฟังพระธรรมเพราะรู้ว่าพระธรรมมีประโยชน์จะทำให้เรารู้ความจริง ความพอใจนี้ ไม่ได้ติดข้องแต่เกิดเพราะปัญญาที่เห็นประโยชน์ตามความเป็นจริงและจิตที่พอใจฟังธรรมเพราะเห็นประโยชน์ มีโทษหรือมีประโยชนที่คิดอย่างนั้น ก็ต้องตอบว่ามีประโยชน์ครับ จึงเป็นกุศล ขอยกข้อความในพระไตรปิฎกที่แสดงว่า ความพอใจ (โลภะ) เป็นอกุศล มีโทษลองอ่านดูนะ ... โลภะมีโทษ [เกสปุตตสูตร]