ราคะ โทสะ โมหะ ตัณหา
* ไฟเสมอด้วยราคะ ไม่มี
- ไฟภายนอก มีไฟจากกองไฟเป็นต้น ยังปรากฏควันให้เห็นบ้าง แต่ราคะ คือความยินดีพอใจ เป็นไฟที่เกิดขึ้นเผาในภายใน (คือในจิต) โดยไม่ปรากฏอะไรให้เห็นได้เลย เพราะเมื่อราคะ (คือโลภะ) เกิดกับจิตขณะใด ย่อมปรุงแต่งให้จิตและเจตสิกที่เกิดร่วมกันขณะนั้น เร่าร้อนไปด้วยความยินดีพอใจ และไม่รู้สึกเลยว่าเป็นโทษภัย
* ผู้จับเสมอด้วยโทสะ ไม่มี
- ในบางชาติ เราอาจถูกยักษ์ งูเหลียม จรเข้ หรือเสือ เป็นต้น จับกินเป็นอาหาร แต่ผู้จับเหล่านั้นก็จับเรากินในชาตินั้นเพียงชาติเดียว แต่โทสะ เมื่อเกิดกับจิต ก็จะประทุษร้ายเผาจิตใจให้เดือดร้อน และก็จะสะสมพืชเชื้อของโทสะติดตามไปในจิต และประทุษร้ายจิตใจในภพชาติต่อๆ ไป
* ข่ายเสมอด้วยโมหะ ไม่มี
- โมหะเป็นสภาพที่ไม่รู้ตามความเป็นจริง เป็นรากมูลของอกุศลธรรมทั้งปวง
- โมหะจึงเปรียบเหมือนข่ายที่รึงรัดและรวบรัดไว้ให้อยู่ด้วยความไม่รู้ ซึ่งไม่สามารถออกไปได้โดยง่ายเลย
* แม่น้ำทั้งหลาย แม้จะมีเวลาที่เต็มด้วยน้ำ แต่ก็ยังมีเวลาพร่อง เวลาแห้งจากน้ำได้บ้าง แต่ตัณหา คือความอยาก เป็นสภาพที่พร่องอยู่เป็นนิจ ไม่มีวันเต็ม เพราะต้องการ อยากได้อยู่ตลอด และยิ่งทวีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม