เป็นความเมตตาหรือเปล่า...
สะดุดใจ กับประโยคข้างล่างนี้ ขณะที่อ่าน E-Book เรื่องเมตตา ของทางชมรม มศพ. ค่ะ
๐ ไม่ก้าวก่ายในอกุศลของผู้อื่น
๐ กิเลสของตัวเองทำให้คิดหมุนวนอยู่
๐ อย่าชอบไปเดาความคิดของผู้อื่น
๐ กิเลสของเราทำให้เราไม่มีความสุข
๐ จงคิดเป็นกุศล
๐ การฟังพระธรรมเสมอๆ ความเข้าใจพระธรรมย่อมสะสมไปในภพหน้า
คุณหญิงณพรัตน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา"
"อย่าชอบไปเดาความคิดของผู้อื่น" ในชีวิตประจำวัน ก็อดไม่ได้ที่จะคาดเดาความคิดของผู้อื่น ด้วยเกรงว่า เขาจะคิดทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ที่เป็นอกุศลลงไป จึงได้ตักเตือนล่วงหน้าไว้ก่อน แต่หลายครั้ง ก็มีความรู้สึกว่า ไม่ควรไปยุ่งกับเขามาก เพราะเป็นเรื่องของเขา เป็นกรรมของเขา อีกใจนึง ก็เป็นห่วงและกังวล จนทำให้ตนเองเป็นทุกข์ใจ เพราะถ้าสิ่งที่ไปคาดเดานั้น เป็นความจริงและเป็นอกุศลกรรมทางกาย วาจา อาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ที่เราเตือนไป เห็นเขาเป็นทุกข์ เรายิ่งทุกข์กว่า เพราะนึกไปถึงความทุกข์ของพ่อแม่เขาด้วย เช่นนี้ควรจะวางใจอย่างไร ให้เป็นกุศล และได้อนุเคราะห์เกื้อกูลผู้อื่นได้บ้างคะ และขอช่วยอธิบายเพิ่มเติมที่ว่า "ไม่ก้าวก่ายในอกุศลของผู้อื่น" ด้วย
ขออนุโมทนาในกุศลค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ลืมความเป็นอนัตตา ตามการสะสมของแต่ละคน แต่ละคนก็แต่ละหนึ่ง สะสมมาอย่างไรก็เป็นแบบนั้น เป็นธรรมทั้งหมด และ บังคับบัญชาไม่ได้ เมื่อคิดว่าจะจัดการ ทำได้ ก็พยายามที่จะจัดการ ด้วยความหวัง ด้วยโลภะ ก้าวก่ายอกุศลคนอื่นด้วยความเป็นเรา ที่อยากจะให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ผู้ที่มีความเข้าใจถูก เข้าใจการสะสมที่เป็นอนัตตาแต่ละคน ตนเองยังจัดการสภาพธรรมของตนไม่ได้ จะกล่าวไปใย ถึงคนอื่น เพราะฉะนั้น การกล่าวตักเตือนด้วยความหวังดี ที่เข้าใจอนัตตา ก็อย่างหนึ่ง การกล่าวตักเตือนด้วยความหวัง โลภะ การจัดการก็อย่างหนึ่ง การกล่าวตักเตือนด้วยเมตตา ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงก็ไม่เดือดร้อนและรู้ถูกขึ้นไปอีกว่า กล่าวตักเตือนแล้ว ทีเดียว เขาไม่ทำตาม ก็ไม่เตือนทำยิ่งไปมากกว่านั้น เพราะเตือนมากขึ้นอีกก็จะทำให้ทั้งตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน นี่คือการเข้าใจการสะสมของแต่ละคนที่สะสมมามากเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ความเข้าใจอนัตตา จึงเป็นเบื้องต้นที่สำคัญที่จะทำให้เข้าใจถูกในชีวิตประจำวัน ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอหรันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อกุศลของคนอื่น ก็เป็นของคนอื่น เมื่อเป็นอกุศลของเขา โทษย่อมเกิดขึ้นแก่เขา แล้วประโยชน์อะไรกับการที่เราจะไปยุ่งกับอกุศลของเขา ที่เป็นประโยชน์คือ เห็นใจ ในความประพฤติที่ไม่ดีของคนอื่น แล้วถ้ามีอะไรที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลได้ ก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำ และที่น่าพิจารณา คือ คนอื่น เขามีอกุศล แล้วเรา มีหรือเปล่า จึงควรเห็นใจผู้ที่มีอกุศลด้วยกัน แทนที่จะโกรธกัน พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทรงเกื้อกูลโดยตลอด เพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมอย่างแท้จริง ครับ
....ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...