ควรทำอย่างไร
ตอนนี้ผมสับสนมากว่าจะทำอย่างไรดี ผมมีเงินเก็บอยู่ล้านกว่าบาท แล้วน้องสาวผมแอบมาถ่ายโอนเงินผมจนหมดไม่เหลือซักบาท ไม่เหลือแม้กระทั้งเงินจะกินข้าว ตอนนี้ชีวิตผมแย่มาก ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ยังเข้ามา แต่ผมไม่มีเงินเหลือเลยจิงๆ ผมเครียดมาก แค้นใจว่ามาทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง สายเลือดเดียวกันยังทำได้ลงคอ คิดจนนอนไม่ได้มาหลายวันแล้ว ผมก็นึกถึงท่านอ.สุจินต์ เลยเข้ามาฟังท่านบรรยายธรรม หลังจากฟังแล้วก็เริ่มใจเย็นลง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากอกุศลกรรมของผมเอง ผมไม่โกรธไม่แค้นเขาแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้น้องต้องไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ อีก...จึงทำให้ผมตัดสินใจไม่ได้ว่าผมควรจะแจ้งความดำเนินคดีเพื่อจับน้องเข้าคุก หรือว่าปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของเขาเอง
รบกวนช่วยชี้แนะด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
แต่ละคนก็แต่ละหนึ่ง ตามการสะสมของจิต ดังนั้น จึงไม่ใช่แนะนำให้ทำอย่างไร เพราะสภาพธรรมที่ชื่อว่าจิตเป็นสภาพธรรมที่ไม่ใช่เรา บังคัญบัญชาไม่ได้และเป็นอนัตตา ดังนั้น จิตจะคิดอย่างไร ทำอย่างไร ก็แล้วแต่การสะสม แต่ละขณะที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย จะฟ้องไม่ฟ้องน้องสาว ก็ไม่พ้นจากคิด ไม่พ้นจากจิตและเป็นอนัตตาด้วย ขณะหนึ่งคิดอย่างหนึ่ง อีกขณะหนึ่งก็คิดอย่างหนึ่ง ประโยชน์ของพระพุทธศาสนาที่พระองค์ทรงแสดงคือ ให้เข้าใจความจริงว่าไม่มีเรา มีแต่ธรรม ไม่มีเขา มีแต่ธรรม มีแต่จิต เจตสิก รูปที่เกิดขึ้น ผลของกรรมมี ก็ไม่พ้นจากสภาพธรรม และ บังคับไม่ได้ด้วยที่จะถูกขโมย ไม่ถูกขโมย ตามกรรมที่ทำมาแต่ละคน เพราะฉะนั้น ก็เห็นประโยชน์ของการศึกษาพระธรรม ว่าเป็นผู้มากไปด้วยกิเลสมาก แล้ว ก็มากไปด้วยกรรมที่ทำไม่ดีมามาก เหตุการณ์นี้ที่สมมติว่าไม่ดีผ่านไป ก็ไม่พ้นจากที่จะต้องได้รับสิ่งที่ไม่ดีอีกมากมายนับชาติไม่ถ้วน ตราบใดที่ยังมากด้วยกิเลส พระองค์ถึงบำเพ็ญพระบารมีมาเพื่อให้พ้นจากกิเลสด้วยการอบรมปัญญา ศึกษาพระธรรม เจริญกุศลทุกประการ เพื่อถึงการพ้นทุกข์ พ้นจากกิเลสที่แท้จริงและเมื่อพระองค์ทรงตัสรู้แล้ว ก็ทรงแสดงคำจริงให้เข้าใจถูกในหนทางที่ถูกต้องว่าไม่ใช่เรา นี่คือประโยชน์ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนาคือเข้าใจความจริงแม้จะมีชีวิตที่มีหน้านองด้วยน้ำตา ก็เป็นผู้สำเหนียกพิจารณาความจริงแล้วจึงไม่ทิ้งโอกาสในการศึกษาพระธรรม
ขออนุโมทนา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถึงคราวที่กรรมให้ผล ใครๆ ก็ยับยั้งไม่ได้ อยู่ที่ไหนก็ไม่พ้น ไม่มีใครทำให้ด้วย เพราะกรรมที่ตนเองได้กระทำมาแล้ว เมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ก็จะมั่นคงในเหตุในผลในความจริง และไม่ประมาทที่จะสะสมเฉพาะสิ่งที่ดีงาม เท่านั้น ไม่กระทำอกุศลกรรม เพราะที่ได้รับผลที่ไม่ดี ก็มาจากเหตุที่ไม่ดี ก็ยิ่งเตือนให้ไม่ประมาทในชีวิตโดยประการทั้งปวง สำหรับบุคคลที่ทำอกุศลกรรม เขาน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขากำลังทำเหตุที่จะให้ตนเองได้รับผลที่ไม่ดีในภายหน้า เพราะฉะนั้น ปัญญาทำกิจของปัญญา คือ เข้าใจอย่างถูกต้องและเกื้อกูลให้ชีวิตดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควร แม้จะลำบาก แต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องสะสมความดี ทำกิจที่ควรทำ พร้อมทั้งฟังพระธรรมอบรมเจริญปัญญาสะสมเป็นที่พึ่งต่อไป ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...