สะสมความดี
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๑๑๒]
สะสมกุศลทีละน้อยๆ ในที่สุดก็ต้องมากขึ้นในวันหนึ่ง
จะได้ทราบว่ากุศลเกิดน้อยแค่ไหน เดี๋ยวนี้เองเห็นเป็นกุศลหรือเปล่า? ไม่เป็น หนึ่งขณะแล้วไม่เป็นกุศลแล้วก็จิตที่เกิดสืบต่อที่เป็นวิบากหรือกิริยาก็ไม่ใช่กุศล แต่ในขณะที่มีสิ่งที่ปรากฏทางตาแล้วไม่รู้แล้วติดข้องโดยไม่รู้ตัวเลย อกุศลแล้วใช่ไหม แล้วก็เวลาที่ได้ยินเสียงโดยที่ว่ายังไม่ถึงการที่จะรู้ว่าคำนั้นหมายความถึงอะไรก็มีความพอใจบ้างไม่พอใจบ้างในเพียงเสียง อกุศลเกิดแล้วใช่ไหม? เพราะฉะนั้น เวลาที่ฟัง (พระธรรม) แล้วเข้าใจนั่นแหละ คือ กุศล เพราะฉะนั้นลองเทียบดู ขณะนี้เห็นมากไหมเหมือนกับว่าไม่ได้หายไปเลย เพราะฉะนั้น แสดงว่าเห็นเกิดดับมากเท่าไหร่? แม้แต่เสียง ยังไม่ทันรู้ว่าเป็นคำที่มีความหมายอะไร ขณะนั้นก็เป็นความติดข้องหรือความไม่รู้ในสภาพธรรมนั้น ส่วนขณะใดที่เข้าใจขณะนั้นเป็นกุศลเล็กน้อยมากไหมเมื่อเทียบกับทางตาซึ่งเป็นอกุศลไปเท่าไหร่ทางหูเป็นอกุศลไปเท่าไหร่? แต่ขณะใดที่ฟัง (พระธรรม) แล้วเข้าใจขณะนั้นเป็นกุศล เพราะฉะนั้น ก็เป็นการสะสมกุศลทีละน้อยๆ น้อยมากจริงๆ แต่ก็สะสมไปทีละน้อย ก็ต้องมากขึ้นในวันหนึ่ง แล้วคิดถึงว่าถ้าไม่สะสมเลย จะเป็นอย่างไร? จึงเป็นผู้ที่ไม่ประมาท เห็นประโยชน์ของการที่จะได้เข้าใจธรรมและทางเดียวที่จะเข้าใจได้จริงๆ คือตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่แล้วมีโอกาสได้ฟัง สิ่งที่ประเสริฐที่สุดคือการได้เข้าใจพระธรรม มิฉะนั้นแล้วจะไปได้ยินพระธรรมเมื่อไหร่อีก ก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ จากวันนี้ไปเกิดเป็นหนอนก็ได้เป็นสุนัขก็ได้เป็นแมวก็ได้แล้วก็มีใครไปพร่ำสอนไหมว่ามีเห็นมีได้ยินไม่ใช่สัตว์บุคคลไม่ใช่ตัวตน ไม่มีโอกาสเลยที่สามารถจะฟังแล้วก็เข้าใจได้ เพราะฉะนั้น ความไม่ประมาทก็คือเป็นโอกาสที่จะได้เข้าใจธรรมควรที่จะได้ฟังพิจารณาไตร่ตรองเป็นการสะสมความเห็นถูกความเข้าใจถูก
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย