ผู้ไม่มีความละอาย
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๑๙๓]
ผู้ไม่มีความละอาย
เคยได้ยินไหม “อลัชชี” ผู้ไม่มีความละอายต่อความประพฤติของตน ซึ่งเขามาแสดงความนอบน้อมนำสิ่งมาบูชา แต่ตนเองไม่ได้มีคุณความดีอย่างนั้นเลย แต่รับ นั่นคือ ผู้ไม่ละอาย เป็นอลัชชี สารพัดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโทษของผู้ที่ไม่ประพฤติตามพระธรรมวินัย เพราะเหตุว่าเพศบรรพชิตจริงๆ แล้วเป็นเพศของพระอรหันต์ ผู้ที่สามารถดับกิเลสในเพศคฤหัสถ์ได้สามารถที่จะถึงความเป็นพระโสดาบัน ขัดเกลากิเลสต่อไปถึงระดับขั้นพระสกทาคามีบุคคล ดับต่อไปอีกเพราะกิเลสมีมากมายต้องดับไปตามลำดับขั้นเป็นพระอนาคามีบุคคล ต่อเมื่อไหร่เป็นพระอรหันต์ เมื่อนั้นอยู่ในเพศคฤหัสถ์ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ ภิกษุคือเพศของพระอรหันต์ ผู้ที่บวชครองผ้ากาสาวพัสตร์ ทำทุกอย่าง ทั้งการสละอาคารบ้านเรือนเพื่อแสดงตนประกาศเปิดเผยว่าเป็นผู้ที่จะขัดเกลากิเลสถึงความเป็นพระอรหันต์ เพราะฉะนั้น จึงมีทั้งการศึกษาธรรมด้วยความเคารพมีความเข้าใจแล้วก็มีความประพฤติขัดเกลากิเลสยิ่งกว่าคฤหัสถ์ โดยต้องประพฤติตามสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ด้วยพระองค์เอง ว่า ภิกษุคือผู้ที่ขัดเกลากิเลสจะต้องมีกายวาจาอย่างไร ถ้าไม่ประพฤติตามนั้น ต้องโทษเป็นอาบัติที่จะต้องแสดงโทษของตนเองประกาศให้รู้ จึงสามารถที่จะคืนสู่เพศบรรพชิตเข้าหมู่คณะเป็นภิกษุสงฆ์เป็นคณะของภิกษุในพระธรรมวินัยได้ นั่นคือ ผู้ละอาย เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีคุณความดีอะไรเลยแล้วเขาเอาสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาให้แล้วรับไว้สมควรไหม เป็นโทษระดับไหน?
ข้อความในพระไตรปิฎก ก็แสดงอยู่แล้วว่า เมื่อบวชแล้ว ต้องระลึกว่า “เราไม่ใช่คฤหัสถ์อีกต่อไป” เพราะฉะนั้น จะไม่รู้หน้าที่ของพระภิกษุไม่ได้เลย เป็นภิกษุแต่ไม่รู้ว่าภิกษุคือใคร แล้วจะเป็นภิกษุได้หรือ? ด้วยเหตุนี้ ภิกษุในพระธรรมวินัย ต้องประพฤติตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติ มิฉะนั้นแล้ว ก็ไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย เพราะฉะนั้น บวชโดยไม่เข้าใจอะไรเลย แล้วก็ไม่ประพฤติตามพระธรรมวินัยด้วย ก็เป็นโทษอย่างยิ่ง
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย