ศึกษาธัมมะแล้ว ยังปฏิบัติไม่ดีเท่าที่ควร

 
แล้วเจอกัน
วันที่  3 เม.ย. 2550
หมายเลข  3301
อ่าน  996

จาก ..การสนทนาเรื่องปฏิบัติธรรม

อาทิตย์ ๑ เมษายน ๒๕๕๐

ผู้ฟัง. ท่านอ.ค่ะ ถ้าเป็นเรื่องของการงานที่ว่าเราต้องมีความรับผิดชอบ จะรู้สึกว่าโทสะไม่ค่อยลดค่ะ คือ เพื่อที่จะให้งานเกิดความสำเร็จ ก็เหมือนกับว่า ก็ไม่ได้ ระลึกถึงในระหว่างทำงานทั้งวันแล้วก็ก่อให้เกิด คือ อกุศลก็มีทั้งวันอยู่ แล้วตามที่ได้ เรียนกับท่าน อ. นะคะ แต่ว่าตัวเองก็จะมีความรู้สึกว่า อกุศลเรามีเยอะมากคะ ท่าน อ.

อ. คะ ขอถามคำเดียวนะค่ะ เป็นธรรมหรือเปล่า

ผู้ฟัง. เป็นธัมมะค่ะ แต่ว่าผู้ใกล้ชิดก็เลยบอกว่า ขับรถไปเสียน้ำมันทำไม ศึกษา ธัมมะแล้วเนี่ย ยังปฏิบัติไม่ดีเท่าที่ควร

อ. คะ คนที่พูดไม่เข้าใจคำว่า อนัตตา คะ

ผู้ฟัง. คือเนื่องจากจิตรวดเร็วมากนะค่ะ ก่อนที่จะคิดได้ว่าเป็นธัมมะ ก็คือเกิดความ ผิดหวังในตัวเอง

อ. คะ ก็ลืมว่าเป็นธัมมะไงค่ะ ไม่งั้นเราคงไม่ต้องฟังบ่อยๆ ตั้งแต่เช้ามาตี ๔ ครึ่ง ตี ๕ ๖ โมง ฟังบ่อยๆ เพื่ออะไร เพื่อจะได้ไม่ลืมคะ เพราะว่าทันทีที่ไม่ได้ฟังก็ลืมแล้วคะ เป็นเรื่องอื่น และสัญญา ความจำ จำเรื่องอื่นไว้ ไม่ใช่ชาตินี้ชาติเดียวนะคะ จำ เรื่องราวต่างๆ แต่ละชาติ แต่ละชาติ ชาติใหม่ หน้าที่ใหม่ เรื่องใหม่ จำใหม่ คิดใหม่ กังวลใหม่ ลืมใหม่ ไปเรื่อยๆ นี่คือธัมมะ เพราะฉะนั้น กว่าจะเข้าใจถูกต้อง ตามความเป็นจริงนะค่ะ จนรู้ว่าเป็นธัมมะ ไม่ใช่เพียงขั้นฟัง แต่รู้ลักษณะที่เป็นธัมมะแต่ละ ลักษณะซึ่งเป็นธัมมะทั้งหมด คิดดูนะคะจนไม่เหลือความสงสัย ไม่เหลือความเป็น เรา ไม่เหลือความไม่รู้ในความเป็นจริงของธัมมะที่เกิดดับ เมื่อนั้นก็จะเข้าใจว่าไม่ใช่ เพียงขั้นเพียงพูดหรือขั้นคิดว่าเป็นธัมมะ แต่เป็นการรู้จักธัมมะจริงๆ

ผู้ฟัง. นี่.. ถ้าสมมติว่าเราเข้าใจธัมมะแล้วจริงๆ นะคะ เราสามารถทำงานกับผู้ที่สมมติว่าคอยแกล้งเรา คอยทำร้ายเราอะไรต่างๆ เนี่ย ได้อย่างเป็นปกติใช่ไหมค่ะ

อ. ก่อนจะเป็นพระโสดาบัน ขณะที่มีเขาเนี่ย มีเขาจริงๆ หรือกำลังคิดว่ามีคนนั้นจริงๆ

ผู้ฟัง. มีคนนั้นจริงๆ

อ. เดี๋ยวนี้มีไหมค่ะ

ผู้ฟัง. อ๋อ คิดถึงเขาคนนั้นใช่ไหมค่ะ

อ. มีเมื่อคิดเท่านั้นเองคะ ถ้าไม่คิดจะมีอะไร

ผู้ฟัง. นี่ถ้าในชีวิตความเป็นอยู่เนี่ย มันต้องสมมติถ้าเจอทุกวัน

อ. ชีวิตความเป็นอยู่ คือ คิดทุกวัน ก็เลยมีทั้งนั้นเลย มีทุกวันเพราะคิดทุกวัน

ผู้ฟัง. งั้นถ้าเราเข้าใจธัมมะจริงๆ การตอบโต้กลับไปกับเขา ก็จะเปลี่ยนแปลงใช่ ไหมค่ะ

อ. จะตอบดีหรือไม่ตอบดี จะโต้ดีหรือไม่โต้ดี

ผู้ฟัง. คือถ้าเมื่อไหร่…

อ. ไม่ได้ถามอย่างนั้นค่ะ ถามว่า..ไม่มีเรา ไม่มีเขา จะโต้ตอบหรือไม่โต้ตอบดี

ผู้ฟัง. ถ้าให้งานสำเร็จ ต้องโต้ตอบคะ ท่าน อ. ไม่งั้นงานก็ไม่ไป เป็นอุปสรรค

อ. คะ ถ้าคิดอย่างนั้นนะคะ ขณะนั้นรู้เหตุผลหรือเปล่า

ผู้ฟัง. รู้เหตุผลในเรื่องของงาน

อ. แต่ขณะนั้นยังไม่รู้ว่า กุศลจิตหรืออกุศลจิต การตอบโต้ การชี้แจง การอธิบายมีได้ แต่จิตขณะนั้นเป็นกุศลหรืออกุศล พระโสดาบัน มีโลภะไหม มีโทสะไหม มีโมหะไหม


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
yupa
วันที่ 4 เม.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

ได้ฟังท่านอาจารย์ สุจินต์ บรรยายธรรม ครั้งใด จิตสงบ ทุกครั้ง ท่านบรรยายด้วยความเข้าใจเหมือนผู้รู้แจ้งแทงตลอด คนที่ศึกษาก็เบาใจ ที่ได้ฟังใน สิ่งที่ถูกต้อง ตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
petcharath
วันที่ 4 เม.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 4 เม.ย. 2550

ชอบอ่านข้อความที่คุณแล้วเจอกันถอดเทปปฏิบัติธรรมและพื้นฐานค่ะ ขออนุโมทนา นะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
medulla
วันที่ 4 เม.ย. 2550

ขอบพระคุณมากค่ะ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
oom
วันที่ 10 เม.ย. 2550

เรื่องความโกรธ เอาชนะยากมาก คงสะสมมาเยอะ จึงมักชอบโกรธ แต่หายเร็วค่ะ พอ อ่านที่อาจารย์สุจินต์บรรยายก็เข้าใจค่ะ ว่าเป็นสภาพธรรมะอย่างหนึ่ง ที่เกิดด้วยเหตุ ปัจจัยต้องพิจารณา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pornpaon
วันที่ 12 เม.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะไม่ได้เข้ามานาน เพราะนั่ง นอน ยืน เดิน อยู่กับโลภะและโทสะตามภาระที่รับผิดชอบอยู่ ใจแห้งแล้งมากได้เข้ามาที่เว็บบ้านธัมมะอีกนี้ ใจชุ่มชื้นมาก ข้อความที่คุณแล้วเจอกันถอดออกมาให้อ่านกันนี้ ดีมากๆ ค่ะ ชีวิตประจำวันของคนทำงานมักต้องเจอ อย่างนี้เสมอ กว่าจะรู้ตัว อกุศลก็พูนสูงขึ้นก่อนทุกทีไป

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Komsan
วันที่ 15 เม.ย. 2550

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 17 ก.ค. 2567

ยินดีในกุสลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ