สังคะโห อะสังคะโห สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง ขอถามความหมายครับ
ในบทสวด พระธาตุกะถา ผมสวดแล้วยังไม่เข้าใจความหมายของบทสวดครับ ธรรมที่สงเคราะห์ได้กับธรรมที่สงเคราะห์ไม่ได้ ความหมายคืออะไรครับ
ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรม ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องศึกษาด้วยความเคารพละเอียด รอบคอบ ถึงจะมีความเข้าใจได้ และความเข้าใจก็ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปจริงๆ ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อยจากการได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เริ่มตั้งแต่ คำว่า ธรรม คือ สิ่งที่มีจริงๆ
ธรรมที่สงเคราะห์ได้ (สังคโห) เช่น ธรรม ที่เป็นส่วนของรูป ก็สงเคราะห์เข้ากันได้ ในหมวดหมู่ต่างๆ โดยความเป็นรูป เช่น รูปขันธ์ แม้ในส่วนของธาตุ ก็มีรูป ในส่วนของอายตนะ ก็มีรูป ด้วย เป็นต้น ในส่วนของนามธรรม ก็สงเคราะห์เข้ากันได้ ในส่วนของนามธรรม ในขันธ์ ๕ ก็มีนามธรรม ในธาตุ ในอายตนะ ก็มีนามธรรม ก็สงเคราะห์เข้ากันได้เฉพาะในหมวดของนามธรรม
ธรรมที่สงเคราะห์ไม่ได้ (อสังคโห) เช่น ไม่สงเคราะห์รูปขันธ์ เข้าด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ อันเป็นนามธรรม ในทางตรงกันข้าม ไม่สงเคราะห์นามธรรม ในส่วนของรูปธรรม นี้ คือ ธรรมที่สงเคราะห์ไม่ได้
ธรรมที่สงเคราะห์เข้าด้วยกันได้ เพราะเป็นฝ่ายเดียวกัน แต่สงเคราะห์เข้ากันไม่ได้กับหมวดธรรมฝ่ายอื่น (สังคหิเตน อสังคหิตัง) เช่น อายตนะ ธาตุ ในส่วนที่เป็นรูป ที่สงเคราะห์เข้ากับรูปขันธ์ได้ เพราะเป็นรูป แต่สงเคราะห์เข้ากับนามขันธ์ ไม่ได้ เป็นต้น
ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
สำหรับเริ่มต้น ได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
ธรรมะคือสิ่งที่มีจริง
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
