วันคืนล่วงไป ทำอะไรอยู่
* ข้อความนี้พระเหรัญญกานิเถระ เมื่อท่านบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้กล่าวเตือนน้องชายผู้ยินดีติดข้องกับการประกอบกิจการงาน
* ที่สมมติว่าเป็นวันและคืนที่ล่วงไป ก็เพราะมีสภาพธรรม (จิต เจตสิก รูป) ที่เกิดดับสืบต่อไปอย่างรวดเร็วในทุกๆ ขณะ
ดังนั้น วันและคืน จึงกำลังจากไปอย่างรวดเร็วในทุกๆ ขณะ
* แม้ที่สมมติกันว่าเป็นชีวิตที่อยู่มาเป็นหลายๆ ปี แท้จริงแล้ว สภาพที่เป็นชีวิต คือสภาพที่ทำให้จิต และรูปที่เกิดจากกรรม มีชีวิตดำรงอยู่ชั่วขณะที่แสนสั้น แล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็วที่สุด
สมดังข้อความว่า "ดูกรภิกษุ เธอย่อมแก่ ย่อมเจ็บ ย่อมตาย ย่อมจุติ และอุบัติ ทุกๆ ขณะดังนี้"
* อายุของสัตว์ทั้งหลาย ย่อมสิ้นไปเหมือนน้ำในแม่น้ำน้อย
- ทุกคนมีชื่อว่า "มัจจะ" เพราะมีอันจะต้องตายเป็นสภาพ แม้ใครจะมีชีวิตอยู่ได้นาน ก็อยู่ได้แค่ร้อยปี หรือน้อยกว่า หรือจะเกินร้อยไปบ้าง ก็ต้องสิ้นไป
- เหมือนน้ำในแม่น้ำน้อย เพราะธรรมดาน้ำของแม่น้ำน้อย คือแม่น้ำเล็กๆ ที่ไหลมาจากภูเขา ย่อมมีอยู่ได้ไม่นาน ต้องแห้งไปอย่างรวดเร็ว คือพอไหลมา
เท่านั้น ก็ขาดแห้งไป ฉันใด อายุของสัตว์ทั้งหลายก็ฉันนั้น ย่อมถึงความสิ้นไป
* เมื่อชีวิตที่เป็นไปในขณะนี้ เป็นของไม่เที่ยง แต่คนพาล (คือผู้มืดบอด เพราะไม่ได้ฟังพระธรรม) ย่อมทำกรรมชั่ว ด้วยโลภะ โทสะ โมหะ ทั้งๆ รู้ ด้วยความจงใจทำชั่วอยู่ แต่ก็ไม่รู้สึกตัว คือไม่เห็นโทษภัยของอกุศลกรรมว่า จะให้ผลเป็นทุกข์เดือดร้อนอย่างยิ่ง เช่น ทุกข์ในอบายภูมิ
* เมื่อน้องชายของท่านพระเถระได้ฟังธรรมนี้แล้ว ท่านก็เห็นโทษของความเป็นไปในชีวิต และออกบวช อบรมเจริญปัญญา จนบรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ในที่สุด
* สำหรับเรา ก็สมควรที่จะได้รับประโยชน์จากพระธรรมนี้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนให้มีศรัทธาศึกษาพระธรรม สะสมอบรมปัญญา และเจริญกุศลทุกประการต่อไป
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม