เป็นบัณฑิตก็เพราะปัญญา
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๒๖๘]
เป็นบัณฑิตก็เพราะปัญญา
พาลและบัณฑิต ไม่ได้อยู่ที่อื่นเลย ฟังแล้วก็ต้องเข้าใจตามความเป็นจริงว่าเดี๋ยวนี้เอง ฟังพระธรรมทั้งหมด ก็คือ ทรงแสดงความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ และผู้นั้นก็เป็นผู้ที่ตรงด้วย ไม่ต้องมีคนอื่นตัดสิน แม้แต่พระธรรมที่ทรงแสดงก็ชัดเจน เมื่อเป็นอกุศลจะเป็นบัณฑิตได้อย่างไร แต่ถ้าขณะใดที่มีความสามารถความรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ขณะนั้นเป็นบัณฑิต เพราะฉะนั้น ความเป็นบัณฑิตก็เพราะปัญญาที่ค่อยๆ เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏเพิ่มขึ้น จนสามารถที่จะรู้ความจริงจนดับกิเลสได้ ท่านเหล่านั้นก็เป็นบัณฑิต เพราะฉะนั้น ก็จะเข้าใจความหมายของบัณฑิตไม่ว่าจะโดยนัยใดๆ ทั้งสิ้น
อยู่ที่นี่เดี๋ยวนี้แล้วก็มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงด้วยว่าไม่ใช่เรา แต่เป็นสภาพธรรมที่เป็นพาลหรือบัณฑิต เพราะถ้าเป็นพาล อกุศลทั้งหลายไม่สามารถที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรมได้เลย ไม่สามารถที่จะถึงความเป็นบัณฑิตได้ แต่ขณะใดที่ฟังพระธรรมเข้าใจ ต่างแล้ว ใช่ไหม ชีวิตเปลี่ยน จากการที่อยู่ไปวันๆ ด้วยโลภะบ้าง ด้วยโทสะ บ้าง ด้วยเหตุการณ์ต่างๆ บ้าง ด้วยความเป็นเราเป็นเขาบ้าง แต่ก็ได้มีขณะที่ในสังสารวัฏฏ์ก็มีโอกาสที่จะได้ยินได้ฟังธรรมและก็รู้ว่าขณะนั้นเป็นธรรม ก็เป็นการเริ่มต้นของการที่จะถึงความเป็นบัณฑิต เพราะเหตุว่า รู้ความจริง ซึ่งไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรม เพราะฉะนั้น มีชีวิตอยู่ เพื่อเข้าใจธรรม
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย