ไม่ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เป็นพุทธได้แค่บัตรประชาชน

 
sutta
วันที่  29 ต.ค. 2563
หมายเลข  33193
อ่าน  337

พระพุทธศาสนา พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยปัญญา เพราะหลับ ไม่รู้ ด้วยอวิชชาและกิเลสที่มี พระพุทธรูป (อุทิสสกเจดีย์) คือ เจติยะ เจดีย์ประเภทหนึ่ง คือ ควรแก่การบูชา ซึ่งพระพุทธรูปไม่ได้มีในสมัยพุทธกาล สร้างขึ้นมาทีหลัง แต่เราจะเป็นชาวพุทธที่ถูกต้อง จะบูชาถูกต้องได้อย่างไร ก็ด้วยการศึกษาพระธรรม เข้าใจพระธรรม เพราะจุดประสงค์ของพระพุทธเจ้า ไม่ได้ต้องการ การกราบไหว้ ของหอมบูชา แต่ พระองค์ทรงแสดงพระธรรม เป็นศาสดาแทนพระองค์เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว เพื่อให้สัตว์โลกเกิดปัญญาเข้าใจพระธรรม ความจริง เพราะฉะนั้นพระพุทธรูปจึงเป็นสิ่งที่ให้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้าและเตือนให้ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญาสมกับเป็นชาวพุทธ ถ้าไม่มีการศึกษาพระธรรมเข้าใจพระธรรม จะระลึกได้อย่างไร จะบูชาได้อย่างไร จะเป็นชาวพุทธได้อย่างไร

ท่านอาจารย์ จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรม คือ เพื่อจะได้รู้จักพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆ ไม่ใช่เพียงแต่กราบไหว้ เพราะโดยมากคนจะบอกว่า เมืองไทยมีพระพุทธรูปไว้กราบไหว้ ถ้าไม่ศึกษาแล้วก็ต้องเป็นไปในลักษณะนั้น ใช่ไหมคะ แต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ และไม่มีประโยชน์เลย ถ้ากราบไหว้โดยไม่รู้ว่า ทรงมีพระปัญญาอย่างไร ทรงมีพระมหากรุณาคุณอย่างไร


ผู้ที่เข้าใจธรรมแล้วเมื่อเห็นพระพุทธรูป ไม่ว่าแบบใด ก็ย่อมน้อมด้วยปัญญาที่เข้าใจพระธรรมได้ ดั่งเช่น พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ฤาษีท่านหนึ่ง บูชาพระพุทธเจ้า ด้วยการก่อเจดีย์ทราย แล้วน้อมระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า ทำเจดีย์ทรายนั้นให้เหมือนตัวแทนพระพุทธเจ้า นี่คือ ตัวอย่างของผู้ที่เข้าใจพระธรรม จึงบูชาพระพุทธเจ้า แม้ด้วยการสร้างเจดีย์ทราย ไม่ใช่รูบแบบเป็นพระพุทธรูป

และข้อความในพระไตรปิฎก ยังแสดงอีกว่า ไม่มีมนุษย์คนใดที่สามารถสร้างพระพุทธรูปให้เหมือนพระองค์ได้จริงๆ ดังข้อความในพระไตรปิฎก.. อีกอย่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหลายกระทำรูปเปรียบใดล้วนแล้วด้วยทองและเงินเป็นต้น ในบรรดารูปเปรียบเหล่านั้น ชื่อว่าผู้สามารถกระทำโอกาสแม้สักเท่าปลายขนทราย (แม้เพียงนิดนึง) ให้เหมือนอัตภาพของพระตถาคต ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบแม้โดยประการทั้งปวง.

ดังนั้น จะสร้างพระพุทธรูปแบบใด ให้งามวิจิตร หรือ จะแบบใดก็ตาม ประโยชน์อยู่ที่ไหน อยู่ที่การถกเถียงกันในรูปแบบของพระพุทธรูป หรือ อยู่ที่ควรปลูกฝังการเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้องกับวัยรุ่น เยาวชนและผู้ใหญ่ที่ได้สะสมความเห็นถูกมา พระพุทธรูปจึงเป็นเครื่องเตือนให้ศึกษาพระธรรม เข้าใจพระธรรม เพราะไม่เช่นนั้น ก็ไม่ได้รับประโยชน์จากพระพุทธศาสนา และนี่คือตัวอย่างของเมืองไทยที่มีพระพุทธรูปสวยงามมากมาย แต่ มีการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้า นี้ต่างหากที่เป็นวิกฤตพระพุทธศาสนาที่ชาวพุทธไม่รู้

เพราะชาวพุทธไม่ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ไปวัด ก็ไปไหว้พระพุทธรูปขอพร ปีใหม่ ไป 9 วัด ทำไมต้อง 9 วัด เพราะไม่รู้ คิดว่าเป็นมงคลชีวิต พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเพื่อละ แต่ผู้ไม่ศึกษาพระธรรมไหว้พระเพื่อขอ จึงเป็นที่มาของพุทธพาณิชย์ สร้างวัดเพื่อหาเงิน ทั้งคฤหัสถ์และพระหลอกชาวบ้านด้วยคำว่าบุญ สร้างวัตถุใหญ่โต เครื่องรางของขลัง สร้างวัดสวยงามเพื่อเงิน เพื่อตัวเอง

ชาวพุทธไม่ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง จึงไปสำนักปฏิบัติธรรม ไปนั่งสมาธิโดยไม่รู้อะไร เขาบอกว่าสงบก็สงบ เพราะไม่เข้าใจว่าธรรมคืออะไร แต่ถูกกิเลสคือโลภะ ความต้องการ อยากสงบ ไม่อยากวุ่นวาย อยากสะเดาะเคราะห์พ้นภัย เมื่อไม่รู้ความจริงจึงไปแสวงหาสถานที่ ลืมว่าปัญญาสามารถเกิดรู้ความจริงได้ทุกที่ เพราะธรรมมีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน นี่คือ วิกฤตพระพุทธศาสนาเพราะสำนักปฏิบัติธรรม

ชาวพุทธไม่ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง จึงกระทำไม่ถูกต้องตามพระพุทธเจ้าทรงแสดง ให้เงินพระภิกษุ ไม่รู้ว่าพระ คือ ใคร สละแล้วทางโลก พระรับเงินต้องอาบัติ ถูกพระอลัชชีหลอกลวงด้วยคำว่าจะได้บุญมาก ให้ทำมากๆ

ชาวพุทธไม่ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง จึงคิดว่าพระพุทธศาสนาอยู่ที่วัด ไปวัด คือ ไปทำบุญ ไม่รู้จักคำว่าบุญคืออะไร บุญคือจิตที่ดี และบุญไม่ใช่มีแค่ให้ทาน บุญไม่ใช่อยู่ที่กระป๋องเหลืองสังฆทานในวัด

ชาวพุทธไม่ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง จึงสำคัญว่าพระช่วยเหลือสังคมได้ ช่วยน้ำท่วมเรี่ยไรเงินจากคฤหัสถ์ดี ไม่ได้แยกว่า พระจะต้องประพฤติตามคำพระพุทธเจ้าคือพระวินัยบัญญัติ เรี่ยไรเงิน รับเงิน ต้องอาบัติ หน้าที่พระคืออะไร เอาแต่ความคิดของตนเอง ไม่สนใจคำของพระพุทธเจ้าว่าพระองค์แสดงว่าอย่างไรในหน้าที่ของพระภิกษุ

พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของปัญญา ไม่ใช่เพียงพระพุทธรูป เพราะพระพุทธรูปมีไว้เตือนเพื่ออบรมปัญญาศึกษาพระธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 18 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ