ความจริงที่ซ่อนอยู่ในพายุใหญ่

 
sutta
วันที่  29 ต.ค. 2563
หมายเลข  33199
อ่าน  386

คนนั้นมีสมบัติเพราะมีปัจจัยที่ทำให้เมื่อต้องการเห็นสิ่งใด ก็มีปัจจัยให้สิ่งนั้นสามารถเห็นได้ ได้ยินได้ ก็เข้าใจว่า ยังมีสมบัติอยู่ แต่เมื่อมีภัยพิบัติ พายุพัดบ้านพังทำลาย เงินทองทรัพย์สมบัติก็สูญหายไปได้ ขณะนั้นไม่มีสิ่งที่เข้าใจว่า จะนำมาซึ่งสิ่งที่ปรากฏให้ยินดีทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เดี๋ยวนี้มีสมบัติหรือเปล่า มีเมื่อไร และสมบัตินั้นคืออะไร ถ้าไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กายให้คิด มีสมบัติไหม แต่สิ่งที่ปรากฏไม่ว่าจะทางตา หรือทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย เป็นสมบัติในขณะที่กำลังปรากฏแล้วหมดไปทันที ไม่เหลือเลย แม้เราก็ไม่มี แล้วสมบัติจะมีไหม

ทั้งหมดอยู่ที่ความคิด แต่ไม่มีอะไรประเสริฐเท่าปัญญา เพราะสามารถเข้าใจไม่ว่าในขณะเห็น ในขณะได้ยิน ในยามสุข ในยามทุกข์ ในยามเกิดภัยพิบัติทุกอย่าง ซึ่งจะเกิดขึ้นวันไหนก็ได้ตามเหตุตามปัจจัย เพราะฉะนั้น ปัญญานำไปซึ่งกิจทั้งปวง ควรจะเป็นทุกข์โศกเศร้าก็ไม่เดือดร้อน เพราะรู้ว่าเป็นธรรมดา ชาตินี้ลืมหมด ใครเป็นใครก็ไม่รู้จัก รู้จักกันอีกไม่นาน เคยของหายไหม ไหนล่ะสมบัติของเรา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ธ.ค. 2567

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 28 ธ.ค. 2567

ท่านอาจารย์เคยกล่าวว่า

... เวลานี้เราชอบสิ่งสวยๆ แน่นอนทุกคน เพราะไม่เคยรู้เลยว่า สิ่งที่เราว่าสวย ปรากฏเมื่อกระทบตาแล้วดับ ไม่กลับมาอีกเลย แต่มันต่อจนกระทั่งว่า เหมือนมีอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นถ้าประจักษ์ความจริงเมื่อไรว่า เราไปติดข้องในสิ่งซึ่งเกิดมาให้ติด แล้วก็ไปไหนก็ไม่รู้ ไม่เหลือเลย แล้วยังไปหลงติดข้องอยู่ วิชชา หรือ อวิชชา ...

เป็นคำเตือนใจว่า อวิชชายังแน่นเหนีนว จึงต้องศึกษาพระธรรม ต่อไป หนทางเดียวค่ะ

กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรกล้า

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ขออนุโมนาบ้านธัมมะในธรรมทานค่ะ

ศึกษาเพิ่มเติมที่

ชีวิตชั่วคราว



 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
talaykwang
วันที่ 28 ธ.ค. 2567

เพียงสิ่งที่ปรากฏ เกิดแล้วดับ แล้วไม่กลับมาอีกเลย


กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่าน ทุกประการ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ