นับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือนับถือเครื่องรางของขลัง

 
khampan.a
วันที่  11 พ.ย. 2563
หมายเลข  33282
อ่าน  2,245

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ประมวลสาระสำคัญ

จากการสนทนาธรรม

ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

วันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

พลโทอภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ ๓

พลโทบุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ ๓

และคณะนายทหารจากกองทัพภาคที่ ๓

เข้าพบและสนทนาธรรม

กับอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา









(ขอบพระคุณพี่วันชัย ภู่งาม สำหรับภาพการสนทนาธรรมในวันนี้)


~ ไม่ใช่เพียงฟังเผินๆ แล้วเราจะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระธรรม
ณ พระวิหารเชตวัน ๒๕๐๐ กว่าปี อุบาสกอุบาสิกาก็ไปเฝ้าเพื่อฟังพระธรรม เห็นได้เลย เมื่อเขาได้ยินว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อนี้ไม่มีใครที่สามารถจะเป็นไปตามชื่อได้เลยทั้งสิ้น เพราะเหตุว่า เป็นผู้เดียวในสากลจักรวาลที่ทรงตรัสรู้ความจริงที่กำลังมีจริงๆ เดี๋ยวนี้ โดยประการทั้งปวงทุกอย่างถึงที่สุด เพราะฉะนั้น การที่จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่โดยพระพุทธรูป วัดวาอารามหรืออะไรทั้งสิ้น แต่พระธรรมเปรียบประดุจพระสรีระของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่มีพระธรรม ใครจะเห็นพระคุณที่สูงสุด

~
ที่สำคัญที่สุดในเบื้องต้น ตั้งแต่เริ่มที่จะฟังพระธรรม ก็คือ เป็นผู้ที่จริงใจ คือ สัจจบารมี

~ นับถือเครื่องรางของขลัง คือ นับถือสิ่งที่เราไม่รู้จัก ใช่ไหม? นับถือมานานแล้วด้วย แล้วเมื่อไหร่จะรู้ว่า แล้วเราไปนับถืออะไรจริงๆ? นับถือดิน นับถือเหล็ก นับถือตะกั่ว หรืออะไร? แล้วนับถือแล้วได้อะไร? ไม่มีความเข้าใจอะไรเลยทั้งสิ้น แล้วก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่คนอื่นถึงเขาไม่นับถือ (เครื่องรางของขลัง) เขาก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้างเหมือนกัน แล้วเราไปนับถือทำไมให้เสียเวลา แทนที่จะนับถือสิ่งที่เรารู้ว่าประเสริฐที่สุดหรือมีคุณความดี

~ จริงๆ แล้วทุกคน ด้วยความจริงใจ ไม่ว่าใครทั้งสิ้น นับถือความดี หรือมีใครจะบอกว่านับถือความชั่ว? เป็นไปไม่ได้ ใช่ไหม? แต่ยังไม่รู้ว่าความดีคืออะไร แค่นี้ก็ไม่รู้ แค่คำว่าความดี ก็ไม่รู้ มีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ คืออะไร ได้แต่อยู่ไปแล้วก็คิดไปแล้วก็ตามคำของคนอื่นเสมอมาจนกระทั่งเชื่อเครื่องรางของขลัง เขาบอกว่าดี ใช่ไหม? ถ้าเขาไม่บอกว่าดี เราจะเชื่อไหม? แต่เขา นั่นใคร? ลองบอกหน่อยว่าดีอย่างไร ถ้าไม่สามารถจะบอกได้ เราก็ไปนับถือสิ่งที่เราไม่รู้ และไม่ดีด้วย เพราะไม่รู้ ตราบใดที่ไม่รู้ ไม่ดี ด้วยเหตุนี้ ในพระไตรปิฎก ไม่มีคำว่าเครื่องรางของขลังที่เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เป็นของลัทธิอื่นตั้งแต่ดั้งเดิมก่อนที่จะมีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น เราจะเป็นอย่างนั้นหรือ? มีโอกาสได้ฟังคำว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วมีโอกาสที่จะได้ฟังคำของพระองค์ แต่พระองค์ไม่สามารถจะดลบันดาลให้เราที่ฟังเข้าใจได้ แต่ต้องเป็นการไตร่ตรอง การพิจารณาในเหตุและผลจนถูกต้อง นั่นคือ อาศัยคำของพระองค์

~
มีเหตุที่จะให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น ก็เกิด ขณะนี้นั่งกันอยู่ได้ มีความสุข เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาแล้ว อะไรเป็นเหตุ ใครไปทำใคร นั่งกันอยู่ด้วยกันไม่มีใครทำร้ายใครเลย แต่เจ็บก็เกิดได้ ปวดหัวตัวร้อน ก็เกิดได้ อะไรก็เกิดได้ โดยไม่คาดฝัน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น ต้องแล้วแต่เหตุ ถูกไหม?

~ เคารพในพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเคารพเครื่องรางของขลัง? เปรียบเทียบ อะไรเป็นสาระ อะไรไร้สาระ คือ ไม่มีประโยชน์เลย

~
ที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าเป็นคนที่เห็นคุณของพระธรรมจริงๆ จะกล่าวว่า อยู่เพื่อปัญญาปรากฏ เพราะปัญญาเป็นความเข้าใจถูกความเห็นถูกในสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ซึ่งแค่ฟัง เริ่มคิด ถ้าไม่คิด ไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น ฟังเพื่อเข้าใจคำที่แสดงถึงความจริงซึ่งผู้เดียวที่ได้ตรัสรู้แล้วทรงแสดง ต่างกับคำของคนอื่นทั้งหมด คนอื่น มีสำนักปฏิบัติ แต่ถามหรือเปล่าว่า สำนักคืออะไร? ปฏิบัติคืออะไร? ไม่รู้แล้วก็ไปเลย ไม่ใช่ชาวพุทธแน่นอน

~
ความไม่รู้ทั้งหมด ไม่ทำให้เห็นประโยชน์ของความดี

~ ความดี เป็นความดี ความชั่ว เป็นความชั่ว ไม่ใช่ใคร เพราะฉะนั้น จะมีการเมตตา มีความหวังดี มีความเป็นเพื่อน ได้ไหม แทนที่จะโกรธ เพราะโกรธ ไม่ดีแน่ๆ จะมาอ้างสักนิดหนึ่งว่า ต้องโกรธ ไม่ได้เลย ทำไมต้องโกรธ? ดีตรงไหน?

~ โกรธมีหลายระดับ ตั้งแต่ขุ่นใจเล็กน้อยนิดหน่อยจนกระทั่งพยาบาทไม่ลืมทั้งวันทั้งคืน ปรุงแต่งเป็นความคิดที่จะทำร้ายและทำลาย มาจากไหน มาจากความไม่ดี ไม่เห็นโทษของความโกรธว่า เพียงโกรธเกิดขึ้น ใคร ไม่สบาย ใคร เป็นทุกข์?

~ ถ้ายังไม่เข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นชาวพุทธหรือชาวอื่น?

~ เดี๋ยวนี้เป็นธรรม ทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรม เพราะฉะนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงหนทางแต่ละคำ นำไปสู่การที่จะเข้าใจถูก เพื่อหลุดพ้นจากความเห็นผิด ละความเห็นผิด ละความไม่รู้

~ ผู้ที่สะสมมา ก็เห็นประโยชน์ของพระธรรม แล้วก็เห็นว่า ขณะที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตในสังสารวัฏฏ์ คือ ขณะที่เข้าใจสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส ซึ่งกำลังมีในขณะนี้ตามความเป็นจริง เพราะไม่มีใครเข้าใจเองได้เลย

~
ความมั่นคงของชาติ จะมีได้ไหม เมื่อเสียเงินมากมายก่ายกองกับเครื่องรางของขลัง ถ้าไม่มีการเชื่อถือหรือไปซื้อไปขายเครื่องรางของขลัง ประเทศชาติ จะดีกว่านี้ไหม?

~
สูญเงินไปเท่าไหร่กับสำนักปฏิบัติ มากมายมหาศาล บางแห่งก็เป็น ๑๐๐ ล้าน ๓๐๐ ล้าน แล้วเงินนั้น ถ้าจะนำไปช่วยคนยากคนจนหรืออะไรที่จะพัฒนาประเทศ มิดีกว่าหรือ แล้วก็เป็นคนดีด้วย เพราะรู้ว่า ความจริงคืออะไร ไม่มีเรา

~ เพราะเหตุใด จึงมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง? เพราะว่า ทำให้เข้าใจในสิ่งที่มีจริงๆ ถูกต้องตามความเป็นจริง

~
ที่สำคัญที่สุด ก็คือ รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและฟังคำของพระองค์ เพื่อมีความเข้าใจถูก ถ้าทุกท่านเป็นอย่างนี้ ประเทศเจริญ ไม่เต็มไปด้วยการทุจริตทุกวงการ

~ ถ้าชาตินี้ ไม่รู้ ต่อไปขณะไหน จะรู้

~ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ไม่เหลือเลย แต่พระธรรม ก็ยังมีให้เราได้ฟัง ได้รู้จักคุณ ว่า บุคคลนี้บุคคลเดียวที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ บุคคลใดแต่ละหนึ่งที่สะสมมาเห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม เข้าใจแล้ว อนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยความเป็นมิตรที่ดี เพื่อนที่ดีจะพูดสิ่งที่จริง ถูกต้อง ไม่คำนึงว่าเขาจะรักหรือเขาจะชัง เพราะเหตุว่า เราหวังดี เพราะถ้าเขาไม่ได้ฟังเลยแล้วเขาจะรู้ได้อย่างไร

~ คนที่ได้รับอุบัติเหตุ มีพระเครื่องหรือเปล่า ถ้ามีล่ะ? ... หรือ คนที่รอดพ้นจากภัยพิบัติ โดยไม่มีพระเครื่อง กับ คนที่มีพระเครื่อง ก็เลยเชื่อว่า พระเครื่องทำให้รอด แต่ไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะฉะนั้น ความไม่รู้ก็หนาแน่นมากขึ้นทุกวันจมลงสู่เหวที่ลึกที่สุด คือ ความไม่รู้ ยากที่จะขึ้นมาได้ ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อความถูกต้องและความจริง จริงยิ่งกว่านั้นอีกนิดหนึ่ง คือ แต่ก่อนเห็นผิด เดี๋ยวนี้เริ่มเข้าใจถูกแล้วจะแก้ไขไหม?

~
ความเข้าใจถูก ป้องกันไม่ให้เข้าใจผิด

~
เห็นผิด ทำผิด พูดผิด ประพฤติผิดไปหมด แล้วจะเป็นประโยชน์ต่อใครแม้ตนเอง

~ ความเข้าใจพระธรรม เป็นสิ่งเดียวที่จะนำมาซึ่งความสงบที่แท้จริง เพราะดีงาม เป็นกุศล ไม่คิดร้าย ไม่กล่าวร้าย ไม่ทำร้าย

~ คิดร้าย ดีหรือเปล่า ทำร้าย ดีหรือเปล่า ก็ต้องตรง เปลี่ยนไม่ได้ ความคิดร้ายเกิดเมื่อไหร่ ก็เป็นโทษเมื่อนั้น

~
จะช่วยชาติหรือให้ประเทศมั่นคง ก็ต่อเมื่อเป็นคนดี แต่ถ้าไม่รู้ว่าคนดีเป็นอย่างไร ก็ดีไม่ได้

~
ดี ขณะนั้น เป็นคุณประโยชน์ ไม่ทำร้ายตน จึงไม่ทำร้ายคนอื่น ไม่มีใครทำร้ายใคร สงบไหม? ทำแต่สิ่งที่ดีต่อกัน สงบไหม? สงบตั้งแต่ขณะที่ความดีเกิดขึ้นแล้ว ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ไม่คิดร้าย ถ้าจิตเป็นอย่างนี้ กายจะไปทำร้ายได้ไหม? แล้วถ้าจิตมีความเข้าใจถูกต้อง จะไปพูดคำผิดๆ ได้ไหม?


...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Kalaya
วันที่ 11 พ.ย. 2563

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 11 พ.ย. 2563

กราบยินดีในกุศลทุกท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 11 พ.ย. 2563

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
natthayapinthong339
วันที่ 11 พ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
petsin.90
วันที่ 11 พ.ย. 2563

การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด ขอบพระคุณ ขออนุโมทนาค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Khemsai
วันที่ 11 พ.ย. 2563

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 11 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
talaykwang
วันที่ 11 พ.ย. 2563

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และขออนุโมทนาในกุศลทุกๆ ท่านค่ะ ถ้าไม่ได้พบ มศพ. ชีวิตก็ยังจมอยู่กับความไม่รู้ไปอีกหลายแสนกัปป์

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Dechachot
วันที่ 11 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Nataya
วันที่ 11 พ.ย. 2563

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 11 พ.ย. 2563

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ธีระพันธ์
วันที่ 12 พ.ย. 2563

ขอกราบอนุโมทนาในธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
siraya
วันที่ 12 พ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Thanapolb
วันที่ 12 พ.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

อนุโมทนายิ่งครับ

ยินดีในกุศลของทุกท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
panasda
วันที่ 14 พ.ย. 2563

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ