เพราะมีความเป็นมิตรเป็นเพื่อน จึงไม่เบียดเบียนผู้อื่น
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๒๘๔]
เพราะมีความเป็นมิตรเป็นเพื่อน จึงไม่เบียดเบียนผู้อื่น
สำหรับเรื่องของการรักษาศีลทุกข้อนี้ จะสำเร็จเป็นไปได้ก็เพราะเมตตา คือ อโทสะ ความไม่โกรธ ในเรื่องของทานการให้นั้น จะกระทำให้สำเร็จได้ก็ด้วย อโลภะ (ความไม่ติดข้อง) เพราะเหตุว่าถ้าตราบใดยังมีความติดข้องหวงแหนในวัตถุ วัตถุนั้นท่านไม่อาจที่จะสละให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลอื่นได้ เพราะฉะนั้น ทานก็อาศัยอโลภะเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะให้บำเพ็ญทานกุศลได้ สำหรับศีลจะสำเร็จได้ก็ด้วยการมีเมตตา คือ ขณะนั้นเป็นอโทสะ ไม่ประกอบด้วยโทสะ เช่น ในข้อของปาณาติบาต การฆ่าสัตว์ที่มีชีวิต ถ้าขณะนั้นเกิดเมตตา ฆ่าได้ไหม? ก็ไม่ได้ใช่ไหม? หรือแม้แต่การที่จะเบียดเบียนประทุษร้ายด้วยกาย หรือด้วยวาจาก็ตาม ถ้าเกิดเมตตาขึ้นทันทีในขณะนั้น ย่อมวิรัติ (งดเว้น) การที่จะเบียดเบียนประทุษร้ายด้วยกาย ด้วยวาจา แต่ถ้าขณะนั้นเมตตาไม่เกิด อโทสะไม่เกิด ก็ย่อมเป็นไปตามกำลังของกิเลส
แม้ในข้อของอทินนาทาน คือ การถือเอาวัตถุที่เจ้าของไม่ให้ ก็เช่นเดียวกัน ถ้าท่านเป็นผู้มีเมตตาในบุคคลผู้เป็นเจ้าของ รู้ว่าเขาจะต้องเสียใจ เสียดายในการที่จะสูญเสียวัตถุที่เป็นประโยชน์ของเขาไป ถ้าท่านมีจิตเมตตาในขณะนั้น ท่านย่อมไม่สามารถที่จะถือเอาของที่เจ้าของไม่ได้ให้
กาเมสุมิจฉาจาร (ประพฤติผิดในกาม) ก็เช่นเดียวกัน ย่อมทำความเดือดร้อนให้กับวงศาคณาญาติของผู้ที่ท่านกระทำทุจริตกรรม เพราะฉะนั้น ถ้าขณะนั้นท่านมีเมตตา คิดถึงบุคคลอื่น ไม่ต้องการให้บุคคลอื่นเดือดร้อน ท่านก็จะละการล่วงทุจริตกรรมข้อนี้ด้วย
แม้ข้อของมุสา (การพูดเท็จ) ก็เช่นเดียวกัน การที่ท่านพูดไม่จริง เป็นการเบียดเบียนบุคคลอื่น ไม่ให้คนอื่นได้รู้เรื่องจริง ไม่ให้คนอื่นได้รู้ความจริง ความโกรธ ความประทุษร้าย ไม่เมตตาต่อผู้อื่น จึงกล่าวมุสาได้
แม้ (การดื่ม) สุราก็เช่นเดียวกัน เวลาที่ดื่มสุราแล้วขาดสติ หลงลืมสติอย่างมาก และผู้ที่ดื่มสุราก็เป็นผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ เมื่อมีสุราเป็นเชื้อ เป็นปัจจัยให้กิเลสเหล่านั้นเกิดมีกำลังกล้าขึ้น ย่อมจะสามารถทำทุจริตกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นการเบียดเบียนบุคคลอื่นให้เดือดร้อนได้
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย