ขอความกรุณาอธิบายความหมายของคำ - ไตร่ตรอง หรือ ใคร่ครวญ

 
ชิงช้าชาลี
วันที่  23 ธ.ค. 2563
หมายเลข  33463
อ่าน  1,592

คำว่า ไตร่ตรอง หรือ ใคร่ครวญ ที่ได้ยินบ่อยๆ ในสื่อของบ้านธัมมะ ความหมายคือเท่ากับการคิด หรือไม่คะ และความคิดนั้น จะถูกต้องลึกซึ้ง ก็ขึ้นอยู่กับการสะสมปัญญาของแต่ละบุคคลใช่หรือไม่คะ และผู้ที่คิดไม่ใช่เรา แต่เป็นปัญญาอันนั้น ฉะนั้น ถ้าใครฟังแล้วยังคิดไม่ตรงตามการสื่อสาร ก็เพราะเหตุปัจจัยที่ไม่สามารถบังคับได้ ไม่ควรตำหนิติเตียน หรืออย่างไรคะ (แม้เตือนด้วยเมตตาก็อาจถูกโกรธได้) ขอความกรุณาอธิบายเพื่อความกระจ่างด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 23 ธ.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไตร่ตรอง หรือ ใคร่ครวญ ก็คือ การคิดนึก ก็ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริง คือ จิต เจตสิก ดังนั้นการไตร่ตรองต้องเป็นเรื่องของปัญญาความเข้าใจถูก จึงเป็นการไตร่ตรองตามพระธรรมที่ถูกต้อง

ความคิดนึก เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นนามธรรม คือ เป็นสภาพธรรมที่รู้อารมณ์ หมายถึงว่า เมื่อความคิดเกิดขึ้น จะต้องรู้อะไรบางอย่าง นั่นคือขณะที่มีความคิดนึกเกิดขึ้น จะต้องมีสิ่งที่ถูกคิด สิ่งที่ถูกคิด เรียกว่า อารมณ์ เพราะฉะนั้น ความคิดนึกจึงเป็นนามธรรม เป็นสภาพธรรมที่รู้อารมณ์ ซึ่งความคิดนึก ก็ไม่พ้นจากนามธรรม คือ จิตเจตสิก อาศัยจิตที่เป็นใหญ่ในการรู้ ก็ทำให้มีการคิดนึก เพราะอาศัยจิต และอีกนัยหนึ่ง วิตกเจตสิกก็ทำหน้าที่ ตรึกนึกคิดได้ ครับ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ครับว่า วิตกเจตสิก ที่เป็นสภาพธรรมที่ตรึก นึกคิด และอาศัยจิตด้วยนั้น ท่านเปรียบเหมือนเท้าของโลก คือ ก้าวไปทุกที่ ทุกเวลาได้ คิดเรื่องต่างๆ อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น จิตและเจตสิกเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็ว และ จิต เมื่อเกิดขึ้น ก็ย่อมคิดนึก ไปในเรื่องราวต่างๆ ตามความทรงจำไว้ ที่เคยจำไว้ จำไว้ในเรื่องอะไร ก็คิดไปในเรื่องนั้น เพียงแต่ว่าจะคิดด้วยกุศล หรืออกุศล ซึ่งเพราะอาศัยกิเลสเป็นปัจจัย ก็ทำให้คิดไปในเรื่องราวต่างๆ ที่อยู่รอบตัว และคิดเรื่องตนเองก็ได้ แต่คิดด้วยจิตที่เป็นอกุศล ด้วยความฟุ้งซ่าน เพราะอาศัยเหตุ คือ กิเลสเป็นสำคัญ ครับ

ดังนั้น ความคิดแต่ละคนก็แต่ละหนึ่งเป็นไปตามการสะสม เมื่อเข้าใจว่าเป็นแต่เพียงธรรม ก็เข้าใจถูก ไม่ติเตียนด้วยอกุศล แต่กล่าวเตือนด้วยเมตตาได้ ในสิ่งที่สมควร และ บุคคลนั้นด้วยว่ารับฟังหรือไม่ครับ

ซึ่งกระบวนการ การเกิดการคิดนึก ก็อาศัยการเกิดขึ้นของจิต เจตสิก ทางมโนทวารวิถี ที่นึกคิดเป็นไปในเรื่องราวต่างๆ ตามความทรงจำ สัญญาที่จำไว้ โดยมี วิตกเจตสิกทำหน้าที่ตรึก นึกถึง ครับ

ซึ่งตามที่กล่าวแล้ว จิตและเจตสิก ทำหน้าที่คิด แต่การคิดก็ต้องเจตสิกเกิดร่วมด้วยคือ เจตสิกที่ดีเช่น ศรัทธา สติ เป็นต้น หรือ มีเจตสิกที่ไม่ดี มี โลภะ โทสะ เป็นต้นเพราะฉะนั้น การคิด ก็คิดด้วย กุศล คือ เป็นกุศลจิตที่คิดด้วยกุศลนั่นเอง เพราะมีเจตสิกที่ดีเกิดร่วมด้วยกับจิตที่คิด และบางครั้งก็คิดด้วยอกุศล คือ อกุศลจิตที่คิดเช่น คิดโกรธ คิด พยาบาท คิดชอบ ติดข้อง อันมีเจตสิกที่ไม่ดี เกิดร่วมด้วย คือ โลภะ โทสะครับ นี่ก็คือ คิดด้วย อกุศล ครับ

ซึ่งโดยมาก สัตว์โลกก็คิดด้วยกุศล อกุศลโดยมาก แต่การคิดที่ดี จะมีได้ ก็ด้วยการฟัง ศึกษาพระธรรม อันเกิดจากความเห็นถูก คือ ปัญญา เป็นปัจจัย เพราะมีความเห็นถูก ความคิดก็ถูกต้องตามความเป็นจริง และ ความคิดที่ประเสริฐสูงสุดที่จะเป็นหนทางการละกิเลสแท้จริง คือ การคิดถูกที่เข้าใจว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ชิงช้าชาลี
วันที่ 23 ธ.ค. 2563

กราบขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 23 ธ.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เข้าใจธรรม ตามกำลังปัญญาของตนเอง เบื้องต้น เมื่อเริ่มฟังเริ่มศึกษา ก็จะพอจะเข้าใจว่า ถ้าไม่มีนามธรรม กล่าวคือ จิตกับเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย คิด พิจารณาไม่ได้อย่างแน่นอน ที่คิด พิจารณาได้ ก็เป็นกิจหน้าที่ของสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม นั่นเอง อย่างเช่น ในขณะที่ฟังพระธรรม ไม่ได้มีเฉพาะได้ยินเท่านั้น ยังมีการพิจารณาไตร่ตรองในคำที่ได้ยินได้ฟังด้วยความละเอียดรอบคอบ ด้วย แม้แต่ในเรื่องอื่นๆ ได้ยินได้ฟังอะไรมา ก็ไม่ใช่เชื่อง่าย ไม่ใช่ผู้ที่ไม่มีเหตุไม่มีผล ซึ่งก็คือ ธรรมนั่นเองที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ไม่พ้นจากจิตและเจตสิก ที่เกิดขึ้นเป็นไป ซึ่งทั้งหมดนั้น เป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์บุคคล ตัวตน เพราะได้อาศัยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ความเข้าใจถูก นี้เอง ก็เกื้อกูลให้เป็นไปในทางที่ถูกที่ควร แม้คิด ก็คิดดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 29 ธ.ค. 2563

คิดดีหรือคิดไม่ดีตามการสะสม การฟังธรรมแล้วพิจารณา ไตร่ตรอง เป็นเหตุให้ปัญญาเจริญขึ้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ก.ไก่
วันที่ 16 มิ.ย. 2564

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Sea
วันที่ 3 มี.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 30 ก.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ