ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๒
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๒ * *
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นจริงทุกกาลสมัย ไม่ใช่ว่าพอพระองค์ปรินิพพานแล้ว คำจริงนั้นก็ตายไปด้วย แต่สิ่งที่มีจริงเป็นจริง นั้น เป็นจริงทุกกาลสมัย
~ นับถือพระพุทธศาสนา รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหม? จะตอบอย่างไร? แล้วจะเอาอะไรไปดำรงพระศาสนา?
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ทรงมีพระนามหนึ่งโดยพระคุณ ว่า) สุคตะ ผู้เสด็จไปดีแล้ว ไปไหนที่ดีแล้ว? ดีที่สุดคือไม่มีกิเลส ประเสริฐยิ่งกว่านั้น ก็คือ ประกอบด้วยพระญาณต่างๆ ซึ่งสามารถจะเป็นประโยชน์ที่จะให้คนได้เข้าใจพระธรรมด้วย
~ อยู่ในโลกกี่ครั้งมาแล้วในสังสารวัฏฏ์ แต่ละชาติ อยู่มาอย่าง งาม หรือ ไม่งาม? ไม่รู้ความจริงไปเรื่อยๆ ทุกขณะ ตลอดชีวิต งามหรือ? งามตรงไหน?
~ พระพุทธศาสนา ไม่ได้ไปทำลายโควิด แต่สอนให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโควิด เป็นคนดี ทุกคนเป็นคนดี เพราะฉะนั้น เมื่อทุกคนเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถประการใด ก็ทำด้วยความสุจริต นั่นเป็นหนทางที่จะทำให้โรคนี้หมดไป
~ ผู้ที่ต้องการความจริง เขาไม่หนีการสนทนาธรรม เพราะประโยชน์คือการที่จะได้เข้าใจถูกต้อง สนทนาเพื่ออะไร เพื่อรู้ว่าอะไรถูก จึงทิ้งสิ่งที่ผิด นั่นคือ ประโยชน์ของการสนทนาธรรม
~ ผู้ที่เป็น “พุทธะ” ต้องให้คนอื่นเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง ความจริงถึงที่สุดทุกกาลสมัยเปลี่ยนไม่ได้เลย คือ ไม่มีเรา
~ พระธรรมช่วยให้คนทั้งหลายพ้นจากความเห็นผิดความเข้าใจผิดแล้วก็เป็นผู้ที่ตรงที่สามารถที่จะเข้าใจความจริงได้ มิฉะนั้น ก็แก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้เลย เพราะเข้าใจผิดคิดว่าอกุศลเป็นกุศล
~ พระธรรมทั้งหมดทรงแสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ เท่าที่กำลังของสติปัญญาจะเข้าใจได้ และ อบรมต่อไป เพราะคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ เปลี่ยนไม่ได้เลย เป็นความจริงถึงที่สุด
~ ถ้าไม่มีการฟังพระธรรม ย่อมไม่มีทางที่จะรู้โทษของการที่มีความไม่รู้ในสิ่งที่กำลังปรากฏจึงทำให้หลงพอใจ มาก จนกระทั่งเกิดความทุกข์เมื่อเกิดความพลัดพรากหรือไม่ได้ในสิ่งที่พอใจ จนกระทั่งเป็นเหตุให้กระทำทุจริตกรรม ร้ายแรงถึงกับว่าสามารถที่จะฆ่าคนอื่นได้ เอาทรัพย์ของคนอื่นมาเป็นของตน
~ สะสมความไม่รู้มานานแสนนาน และไม่มีวันจะหมดสิ้นไปได้ ถ้าไม่มีความเข้าใจถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
~ กุศล (ความดี) ทั้งหลาย ไม่นำทุกข์โทษภัยมาให้ แต่อกุศลที่ทุกคนมีนี่แหละนำทุกข์โทษภัยมาให้ ตามกำลังของอกุศลนั้นๆ
~ ถ้าวันหนึ่งๆ โกรธคนอื่น แล้วก็เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว มีวาจาที่บาดหูคนฟัง แล้วพอค่ำๆ ก็ท่องเมตตา ก็เป็นสิ่งซึ่งไม่เป็นความจริงใจ ใช่ไหม? เป็นแต่เพียงว่าคิดว่าเป็นกุศลก็อยากจะได้จะต้องทำเหมือนกับว่าถ้าทำแล้วจะได้กุศล แต่ว่าลืมจริงๆ ว่า กุศลนั้นคือจิตใจที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ
~ มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง ก็ต้องอาศัยคำของพระองค์ ไม่ใช่คิดเอง
~ พระธรรมเป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่งแก่การได้ยินได้ฟังด้วยความเคารพในความลึกซึ้งของผู้ที่ทรงตรัสรู้ความจริง และทรงแสดงความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ด้วยพระมหากรุณาที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจถูก ได้เห็นถูก
~ ประโยชน์ของการเข้าถึงความจริงของสภาพธรรม คือ มั่นคงที่จะเข้าใจว่า ขณะนี้เป็นธรรมที่เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
~ เป็นคนดี ยังไม่พอ ต้องเข้าใจพระธรรมด้วย จะได้ดีมากขึ้น เพิ่มขึ้น
~ ทุกคนไม่รู้ว่าจะจากโลกนี้ไปเมื่อไร ทำประโยชน์หรือคุณความดีพอหรือยัง?
~ ตั้งแต่เกิดจนตายก็เป็นธรรม (คือเป็นสิ่งที่มีจริงๆ) ไม่ว่าจะคิด จะทำ จะพูด ทั้งหมดก็เป็นธรรม
~ ธรรมทั้งหลาย ทั้งหมด ไม่เว้นเลย เป็นอนัตตา ไม่ใช่ของใคร ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ขณะนี้ฟังให้เข้าใจตรงนี้ เพื่อสะสมความเห็นถูกนี้ไปเรื่อยๆ
~ ไม่มีอะไรเป็นของใครเลยทั้งสิ้น และไม่มีตัวตน ไม่มีใครด้วย เพียงแต่มีสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้
~ แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเปิดเผยให้รู้ว่า เราไม่รู้อะไรมานานแสนนาน และไม่มีทางที่จะรู้ได้เลยถ้าไม่มีการฟังพระธรรม ด้วยเหตุนี้ การที่เรามีโอกาสได้เข้าใจธรรม จึงเป็นโอกาสที่ประเสริฐที่สุด
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมแล้วๆ เล่าๆ ถึงสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ จนกว่าผู้นั้นจะเกิดปัญญา ทรงมีพระมหากรุณาอย่างยิ่ง เพราะเขาไม่รู้ เพราะฉะนั้น ก็ทรงแสดงโดยละเอียดโดยประการทั้งปวงสิ้นเชิง เพื่อเขาจะเข้าใจ เมื่อเขาเข้าใจแล้วเขาก็เป็นผู้ที่ปลอดโปร่งจากการหลงผิด เพราะเขารู้ว่าอะไรเป็นเหตุที่แท้จริงที่จะทำให้เกิดความทุกข์ ถ้ายังมีเหตุที่จะทำให้เกิดทุกข์แล้วไม่รู้ ก็เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ต่อไป
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระมหากรุณาแสดงธรรมให้ทุกคนได้ฟัง ไตร่ตรองจนเป็นความเข้าใจถูกเห็นถูกของตนเอง จนสามารถที่จะรู้ได้ว่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา มิฉะนั้น ก็ไม่เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แต่เอ่ยชื่อ ถ้าไม่เข้าใจตั้งแต่คำแรกคือคำว่า ธรรม จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างไร
~ ต้องเป็นผู้ที่ตรง แม้แต่ในการศึกษาธรรม เพื่อขัดเกลาอกุศล แล้วการที่จะขัดเกลาได้ก็ต่อเมื่อรู้ความจริง เพราะฉะนั้น ก็คือว่ารู้ว่าไม่มีใครสามารถที่จะเอาอกุศลที่สะสมมาในจิตของตัวเองออกทิ้งหมดไปได้เลย นอกจากปัญญาที่ค่อยๆ เกิดขึ้น
~ ควรที่จะเห็นความเป็นประโยชน์อย่างยิ่งของการที่จะได้เข้าใจพระธรรม แต่ขอให้เป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการฟังพระธรรม เพราะว่าเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะต้องไตร่ตรอง ศึกษา ครบถ้วน ในความถูกต้อง มิฉะนั้น ก็คลาดเคลื่อน ถ้าเข้าใจผิดไป ก็เป็นภัยอย่างยิ่ง
~ ดี คือ ดี ไม่ใช่เรา เป็นธรรมที่มีจริง ชั่ว เป็น ชั่ว ไม่ใช่เรา เฉพาะฉะนั้น ชั่วเกิดเมื่อไหร่ ไม่ว่าใคร ต้องมีผลของความชั่ว ที่เดือดร้อนกันทุกวันนี้ ก็เพราะใจไม่ดี (เป็นอกุศล) และไม่มีปัญญาที่จะรู้ว่าจะละความไม่ดีนั้นได้อย่างไร
~ พระพุทธศาสนาเท่านั้น กล่าวได้เลย ที่จะทำให้เกิดปัญญาความเห็นที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเหตุที่จะทำให้เป็นคนดี
~ ถ้าเข้าใจพระธรรม แน่นอนประเทศชาติเจริญ เพราะคนเป็นคนดี ปัญหาทุกปัญหาแก้ได้ เมื่อเข้าใจพระธรรม จะเข้าใจพระธรรมได้ ก็ต่อเมื่อฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจถูกต้อง ไม่คิดเอง
~ ประโยชน์ใหญ่ที่สุดยิ่งกว่าประโยชน์อื่นใดทั้งสิ้นถ้าสามารถที่จะทำให้คนได้เข้าใจถูกต้องในพระธรรมวินัยแล้วผู้ที่กระทำผิดก็จะพ้นโทษจากการที่กระทำผิดกลับเนื้อกลับตัวกลับใจ ทำสิ่งที่ถูกต้องชีวิตข้างหน้ายังอีกยาวไกลเพราะฉะนั้น ถ้าไม่แก้ไขวันนี้ ยังคงผิด ชาติหน้าก็คิดเอาเองว่าจะเป็นอย่างไร ไม่มีทางที่จะกลับมาถูกได้ มีแต่โทษภัย
~ เป็นมิตรที่หวังดีจริงๆ ให้สิ่งที่ดีที่สุด คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เขาจะไม่ชอบ ก็ไม่เป็นไร แต่เราก็มีความหวังดีถึงที่สุด แล้วแต่ว่ากาลไหน โอกาสไหน ก็ตามแต่ ก็พูดคำจริงตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง คือ เปิดเผยคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้คนได้พิจารณาไตร่ตรองเพื่อประโยชน์ของเขาเองทั้งพระธรรมและพระวินัย
~ ผู้ที่เข้าใจธรรมจริงๆ เท่านั้น จึงจะเห็นคุณค่าของพระธรรม จึงจะรู้ว่า การให้ธรรม ชนะการให้อื่นๆ ทั้งหมด เพราะประโยชน์ ไม่ใช่เฉพาะชาตินี้ชาติเดียว
~ เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดเผยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงแล้ว โดยกล่าวถึงคำที่พระองค์ได้ตรัสไว้ดีแล้วให้คนอื่นได้ไตร่ตรองได้ฟังได้พิจารณาได้สนทนากันเพื่อความถูกต้อง สิ่งใดที่ผิดคลาดเคลื่อนทิ้งทันที จะมีประโยชน์อะไรที่จะไปเก็บสิ่งที่ผิดๆ ไว้แต่เข้าใจว่าถูก ด้วยเหตุนี้ การที่พุทธบริษัททั้งหลายจะพร้อมเพรียงกัน สอบทาน ศึกษาธรรมด้วยความละเอียดยิ่งเท่านั้น ที่จะดำรงพระสัทธรรม คือ คำของพระพุทธเจ้าไว้ได้เพราะความลึกซึ้งอย่างยิ่ง
* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๑
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง และขอขอบพระคุณอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย ที่เมตตาปันธรรม-ปัญญ์ธรรมให้พวกเราผู้ไม่รู้และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านเช่นกันครับ
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพยิ่งและอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ