ขอทราบบาปกรรม ของผู้ที่เลี้ยงสัตว์จรจัด แล้วไปสร้างความลำบากให้ผู้อื่น

 
สดซอยสอง
วันที่  29 ม.ค. 2564
หมายเลข  33637
อ่าน  2,804

ผมได้อ่านเรื่องบาปกรรมของคนวางยาสัตว์มามากมาย ว่ามีบาปกรรม ต้องตกนรก

แต่ไม่มีใครพูดถึง บาปกรรมของอีกมุมหนึ่ง ต้นตอที่แท้จริงของปัญหา ที่ทำให้คนยอมตัดสินใจฆ่าสัตว์ ทั้งๆ ที่ไม่อยากทำ แต่ต้องทำ เพราะสุดทนกับปัญหาที่เจอ ยอมทำบาป ยอมโดนอีกฝ่ายต่อว่า จากปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ

 

ผู้ที่เลี้ยงสัตว์จรจัดมากมาย มีใจรักสัตว์ ให้อาหาร แต่ไม่ได้มาดูแล ไม่ได้มาเลี้ยง ไม่ได้มารับผิดชอบการกระทำของสัตว์ ปล่อยให้สัตว์พวกนั้น มาขี้เยี่ยว มาทำลายทรัพย์สินผู้อื่น สร้างภาระและปัญหาให้ผู้อื่น โดยที่เค้าไม่สมัครใจ

มีการพูดคุยถึงปัญหาสิ่งที่เดือดร้อน เพื่อแก้ไข แต่กลายเป็นต้องทะเลาะ เพราะผู้ให้อาหารไม่สนใจกับสิ่งที่สัตว์เหล่านั้นไปสร้างปัญหาให้คนอื่น และไม่ร่วมรับผิดชอบการ กระทำของสัตว์เหล่านั้น ปัดความรับผิดชอบ บอกเป็นวิสัยของสัตว์ที่ต้องสร้างปัญหาให้กับผู้อื่น บอกให้ไปแก้ไขปัญหาเอาเอง ผู้เลี้ยง ยืนยันจะเลี้ยงแบบสร้างปัญหาให้คนอื่นต่อไป

หลายคนที่ยอมตัดสินใจฆ่าสัตว์ (เพราะทางออกสุดท้ายที่ทำให้หลุดพ้นจากปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ จะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติสุขแบบไม่มีปัญหาอีกครั้ง) ยอมให้ตัวเองมีบาป จากสิ่งที่คนอื่นสร้างปัญหาให้ การพูดคุยไม่สามารถหาทางออกได้

ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ลักษณะแบบความเจตนาสร้างปัญหาให้กับคนอื่น จนเขาต้องอดทนกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ มีการยั่วยุให้ไปฟ้องศาล ไปถึงศาล คนเลี้ยงปฏิเสธความเป็นเจ้าของ เลยตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการฆ่าสัตว์

ผมอยากทราบ ผลแห่งกรรมของปัญหาพวกนี้

1. คนเลี้ยงแบบสร้างปัญหาให้คนอื่น ทำแบบนี้ได้บุญจริงไหม 

2. ถ้าได้บุญจากการให้อาหารแมวจริง แต่ก็มีเสียงกร่นด่าสาปแช่งให้คนอื่นต้องลำบาก ก็ต้องได้รับเช่นเดียวกันใช่ไหม บุญจากแมวและคำด่าจากคนที่เดือนร้อน แบบไหนรุนแรงกว่ากันครับ ให้อาหารแมว สร้างปัญหาคนให้คนทั้งซอยทุกวันเช่นกัน

3. ทรัพย์สินเสียหาย ต้องคอยเก็บสิ่งสกปรกของสัตว์พวกนี้ ต้องเสียเงินซื้อตระแกรงมาปิดรั้วบ้าน แต่สัตว์พวกนี้ก็ยังเข้ามาสร้างความเสียหายได้อีก ทรัพย์สินเงินทองมีจำกัด ต้องเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น จะต้องเสียไปกับสัตว์พวกนี้ แบบไม่ได้ตั้งใจให้ แบบนี้จะได้บุญไหม

4. ผมอยากทราบที่สุด คนเลี้ยงต้นปัญหา สร้างปัญหาให้กับผู้อื่น จนเขาต้องยอมทำบาป ฆ่าสัตว์ คนเลี้ยงต้นเหตุมีบาปไหม เพราะเป็นต้นเหตุให้คนอื่นต้องทำบาป / ถ้าไม่มี เพราะอะไรถึงไม่มีทั้งที่ตัวเองเป็นต้นเหตุ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 29 ม.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า บุญ คือ อะไร บุญ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นนามธรรม ขณะใดที่จิตปราศจากโลภะ ปราศจากโทสะ ปราศจากโมหะ ปราศจากกิเลสทั้งหลาย ขณะนั้นเป็นบุญ เป็นสภาพธรรมที่ชำระจิตให้สะอาด ขณะที่กุศลจิตเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไปในทาน ก็ตาม ศีล ก็ตาม หรือ การอบรมเจริญปัญญา ก็ตาม ขณะนั้นบุญ เป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ในทางตรงกันข้าม ขณะที่เป็นอกุศล ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ไม่ใช่บุญเลย

1. คนเลี้ยงแบบสร้างปัญหาให้คนอื่น ทำแบบนี้ได้บุญจริงไหม 

คนที่ให้อาหารสัตว์จรจัด เพราะสงสารอยากให้เขามีความสุข พ้นจากความทุกข์ คงไม่ได้มุ่งหวังเพื่อให้สัตว์เหล่านั้นไปสร้างปัญหาให้แก่ผู้ใด เพียงเพื่อให้เขามีความสุข พ้นจากความหิวโหยเท่านั้น ส่วนในเรื่องการจัดการให้ถูกต้อง ตามระเบียบของบ้านเมือง ก็ต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ที่จะมาดำเนินการให้ถูกต้อง เช่น จัดให้มีสถานเลี้ยงสัตว์จรจัดโดยเฉพาะ เป็นต้น

2. ถ้าได้บุญจากการให้อาหารแมวจริง แต่ก็มีเสียงกร่นด่าสาปแช่งให้คนอื่นต้องลำบาก ก็ต้องได้รับเช่นเดียวกันใช่ไหม บุญจากแมวและคำด่าจากคนที่เดือนร้อน แบบไหนรุนแรงกว่ากันครับ ให้อาหารแมว สร้างปัญหาคนให้คนทั้งซอยทุกวันเช่นกัน

ธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ทุกขณะเป็นอย่างนี้โดยตลอด ขณะที่ทำกุศล ก็ขณะหนึ่ง เป็นการสะสมเหตุที่ดี เป็นบุญแล้วในขณะที่กุศลจิตเกิด แต่การถูกด่าว่า จากบุคคลอื่น ไม่ใช่ผลของกุศลอย่างแน่นอน ต้องมาจากเหตุที่ไม่ดีในอดีตที่ผู้นั้นได้กระทำแล้ว จึงเป็นเหตุให้ได้ยินเสียงที่ไม่น่าฟังอย่างนั้น และถ้าผู้นั้น เกิดความไม่พอใจ ที่ถูกว่า ขณะนั้น ก็เป็นอกุศล ไม่ใช่ขณะที่เป็นบุญแล้ว เป็นคนละขณะกัน  

3. ทรัพย์สินเสียหาย ต้องคอยเก็บสิ่งสกปรกของสัตว์พวกนี้ ต้องเสียเงินซื้อตระแกรงมาปิดรั้วบ้าน แต่สัตว์พวกนี้ก็ยังเข้ามาสร้างความเสียหายได้อีก ทรัพย์สินเงินทองมีจำกัด ต้องเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น จะต้องเสียไปกับสัตว์พวกนี้ แบบไม่ได้ตั้งใจให้ แบบนี้จะได้บุญไหม

ก็ต้องย้อนกลับมาที่ความหมายของบุญว่าคือขณะที่เป็นกุศล ขณะที่เกิดความไม่พอใจ ไม่ใช่บุญเลย แต่เป็นอกุศล  

4. ผมอยากทราบที่สุด คนเลี้ยงต้นปัญหา สร้างปัญหาให้กับผู้อื่น จนเขาต้องยอมทำบาป ฆ่าสัตว์ คนเลี้ยงต้นเหตุมีบาปไหม เพราะเป็นต้นเหตุให้คนอื่นต้องทำบาป / ถ้าไม่มี เพราะอะไรถึงไม่มีทั้งที่ตัวเองเป็นต้นเหตุ

คนที่ให้อาหารสัตว์เพื่อให้สัตว์ได้พ้นจากความหิวโหย ก็คงไม่ได้มีเจตนาที่จะให้สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ส่วนผู้ที่ฆ่าสัตว์  นั่นก็เป็นบาป ของผู้ฆ่า  ผู้ฆ่า ได้สร้างเหตุที่ไม่ดีให้กับตนเองแล้วในขณะนั้นที่สามารถเป็นเหตุให้ผลนำเกิดในอบายภูมิได้เลย  ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง การฆ่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใด ก็คือ การฆ่า ย่อมเป็นอกุศลกรรม ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นได้เลย จึงควรพิจารณาอยู่เสมอว่า แต่ละชีวิต ก็รักชีวิตของตนเองด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่ตนเองก็รักชีวิตของตนเอง  เช่นกัน  เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงไม่ควรฆ่าผู้อื่น ลองพิจารณาดูว่า ฆ่าสัตว์ ในโลกนี้ แล้ว ดูเหมือนว่าชีวิตจะมีความสุข ไม่มีการรบกวนจากสัตว์เหล่านั้น แต่... เมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว ถ้าอกุศลกรรม นั้น ให้ผลนำเกิดในอบายภูมิ เช่น เกิดในนรก จะได้รับความทุกข์ความเดือดร้อนแสนสาหัส เทียบกันไม่ได้เลยกับความไม่สะดวกสบายเล็กๆน้อยๆในโลกมนุษย์ ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
talaykwang
วันที่ 31 ม.ค. 2564

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Witt
วันที่ 2 ก.พ. 2564

ธรรมเป็นอย่างไร ก็ย่อมเป็นอย่างนั้น 
กราบอนุโมทนาอาจารย์คำปั่นครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ