ตั้งต้นว่าไม่มีเรา
* การที่จะเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้นๆ ไปโดยลำดับนั้น ต้องเริ่มด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น เพราะถ้าเริ่มต้นผิด ก็จะไปในหนทางผิด รู้ผิด และอาจจะถึงกับเข้าใจผิดว่าหลุดพ้นจากกิเลสแล้วก็ได้
* พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัวตน ซึ่งสวนกระแสความจำความคิดของคนทั่วไป ที่จำและคิดว่าเป็นเรามาแสนนาน
* ความยึดถือว่าเป็นเรา มี 3 อย่างคือ
- ยึดถือด้วยตัณหา (โลภะ) คือ ความยึดถือในบุคคล สัตว์ สิ่งต่างๆ ว่าเป็นของเรา ด้วยความรัก ความผูกพัน
- ยึดถือด้วยมานะ (ความสำคัญตน) ว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เช่น เราเป็นคนเก่งในเรื่องโน้นเรื่องนี้ หรือแม้กระทั่งเราเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในธรรม
- ยึดถือด้วยทิฏฐิ คือความเห็นผิดว่า มีตัวตน มีเรา จริงๆ
* พระโสดาบันไม่มีความยึดถือว่าเป็นเราด้วยความเห็นผิดอีกเลย เพราะอบรมเจริญปัญญาดับพืชเชื้อของความเห็นผิดที่สะสมในจิตได้หมดสิ้น แต่พระโสดาบันก็ยังมีความเป็นเราด้วยตัณหา และมานะ (ในส่วนที่ยังเหลือ) ซึ่งต้องดับด้วยมรรคเบื้องสูงต่อไป
* ดังนั้น ปุถุชนผู้ฟังพระธรรม แม้จะยังมีความยึดถือว่าเป็นเรา ด้วยโลภะ มานะ ทิฏฐิ เพราะปัญญายังไม่มีกำลังถึงขั้นที่จะประจักษ์ชัดในความเป็นธรรมที่ไม่ใช่เราตามความเป็นจริง
แต่การศึกษาตั้งแต่เบื้องต้น คือการฟังพระธรรม ก็ต้องเริ่มให้ถูกต้องว่า แท้จริงแล้ว ไม่มีเรา แต่เป็นธรรมแต่ละอย่างที่เกิดจากเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็วในแต่ละขณะ ซึ่งความเข้าใจถูกตั้งแต่ต้นนี้ จะนำไปในหนทางที่ถูกต้องในการอบรมเจริญปัญญา เพื่อรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏขณะนี้ ตามความเป็นจริงต่อๆ ไป
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม