เหตุใดจึงต้องมีการสมาทานศีล

 
มือใหม่หัดธรรม
วันที่  20 ก.พ. 2564
หมายเลข  33757
อ่าน  987

ขออนุญาตสอบถามถึงเรื่องของการสมาทานศีลค่ะ หากมีความตั้งใจที่จะรักษาศีล มีจิตที่ต้องการที่จะประพฤติในศีลต่าง ๆ เช่น ศีล 5 หรืออุโบสถศีล

จำเป็นไหมคะที่จะต้องสวด ท่องบท หรือเปล่งวาจาบทสมาทานศีลหรืออาราธนาศีล

หรือเพียงแค่จิตในขณะที่เกิดความต้องการที่จะรักษาและปฏิบัติตามซึ่งศีลในข้อต่าง ๆ เท่านั้นก็เพียงพอแล้วคะ

ปัญหาอีกข้อคือ ความต้องการที่จะประพฤติตนในศีล ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่มุสา ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ดื่มสุรา ของมึนเมา ฯลฯ เนื่องจากเห็นโทษของสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวไป ความต้องการที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นโลภะไหมคะ

ปัญหาข้อสุดท้ายคือ สาเหตุที่ศีล 8 นั้นมีการให้เว้นจากการกินในยามวิกาลนั้น เป็นไปเพื่อสิ่งใด มีเหตุผลอย่างไรคะ

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 

 


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 21 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตสอบถามถึงเรื่องของการสมาทานศีลค่ะ หากมีความตั้งใจที่จะรักษาศีล มีจิตที่ต้องการที่จะประพฤติในศีลต่างๆ เช่น ศีล ๕ หรืออุโบสถศีล จำเป็นไหมคะที่จะต้องสวด ท่องบท หรือเปล่งวาจาบทสมาทานศีลหรืออาราธนาศีลหรือเพียงแค่จิตในขณะที่เกิดความต้องการที่จะรักษาและปฏิบัติตามซึ่งศีลในข้อต่างๆ เท่านั้นก็เพียงพอแล้วคะ

ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจว่า สมาทาน หมายถึง การถือเอาเป็นข้อประพฤติปฏิบัติ เป็นเรื่องของสภาพจิตใจ ที่มีความตั้งใจ จริงใจ ที่จะประพฤติในสิ่งนั้น เช่น ถือเอาเป็นข้อประพฤติปฏิบัติที่จะงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ได้ให้ เป็นต้น โดยที่ไม่ต้องไปขอจากใคร ไม่ต้องไปกล่าวคำที่ไม่รู้จัก เพราะเป็นเรื่องของความตั้งใจที่จะประพฤติในสิ่งนั้นด้วยตนเอง ด้วยความเป็นผู้เห็นประโยชน์


ปัญหาอีกข้อคือ ความต้องการที่จะประพฤติตนในศีล ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่มุสา ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ดื่มสุรา ของมึนเมา ฯลฯ เนื่องจากเห็นโทษของสิ่งต่างๆ ที่กล่าวไป ความต้องการที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นโลภะไหมคะ

สภาพจิตใจเป็นเรื่องที่รู้ยาก เพราะฉะนั้น ก็ต้องเป็นปัญญาเท่านั้นที่จะรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปในขณะนั้น ตามความเป็นจริงแล้ว ถ้าเห็นโทษของอกุศลจริงๆ ก็ต้องเป็นสภาพธรรมฝ่ายดีที่เกิดขึ้นเป็นไป ความเป็นจริงของสภาพธรรม ไม่เปลี่ยน เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น แต่ถ้าทำไปเพราะอยาก เพราะหวังผล ต้องการผลของการรักษาศีล นี้ก็ต่างกันแล้วกับความเห็นโทษของอกุศล เพราะฉะนั้น เมื่อเห็นโทษของอกุศล และ เห็นประโยชน์ของกุศล ผู้นั้น ย่อมละเว้นอกุศล และ เจริญกุศล ในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดทั้งปวง เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น


สาเหตุที่ศีล ๘ นั้นมีการให้เว้นจากการกินในยามวิกาลนั้น เป็นไปเพื่อสิ่งใด มีเหตุผลอย่างไรคะ

ต้องไม่ลืม ว่า ศีลทุกข้อ เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส แม้ในเรื่องการงดเว้นการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล (ศีลข้อที่ ๖ ของผู้ที่สมาทานรักษาศีล ๘) คือ หลังเที่ยงไปแล้วจนถึงอรุณขึ้น ก็เป็นเรื่องของการขัดเกลากิเลส ขัดเกลาความติดข้องต้องการ ไม่ต้องไปขวนขวายแสวงหาให้เสียเวลา อันเป็นช่องทางให้เกิดอกุศลเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ทั้งความติดข้อง หรือ เมื่อไม่ได้อาหารที่น่าพอใจ ก็เกิดโทสะ เป็นต้น เพราะเหตุว่า เพียงรับประทานอาหาร เช้า และ ก่อนเที่ยง ก็เพียงพอแล้วสำหรับที่จะให้ชีวิตเป็นไปได้ เพื่อศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมอบรมเจริญปัญญา ไม่ต้องไปเสียเวลากับสิ่งอื่น เพราะเห็นประโยชน์ว่า เวลาที่มีอยู่ ควรที่จะเป็นไปเพื่อฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา สำหรับ การสมาทานรักษาศีล ๘ เป็นอัธยาศัยของผู้ที่จะขัดเกลากิเลสให้ยิ่งขึ้น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล เพราะปกติของชีวิตคฤหัสถ์แล้ว ศีล ๕ เป็นศีลที่ควรรักษาเป็นนิตย์ ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ประสาน
วันที่ 22 ก.พ. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ