พระพุทธเจ้าทรงห้ามการปลุกเสกพระเครื่อง

 
nuttaponghang
วันที่  21 ก.พ. 2564
หมายเลข  33769
อ่าน  4,871

ตามหัวข้อเลยครับ พระพุทธเจ้าทรงห้ามการปลุกเสกเครื่องรางของขลังพระเครื่องแล้วอย่างนี้ พระเกจิที่ปลุกเสกพระมีมากมายในประเทศไทยเป็นพระเกจิชื่อดัง มากมาย แล้วอย่างผมห้อยพระของเกจินั้นๆถือว่าผิดไหมครับ

ถ้าผิดแล้วต้องทำอย่างไร ตอนนี้ผมสับสนครับในเมื่อพระพุทธเจ้าท่านเคยตรัสว่าห้ามปลุกเสกของขลัง ของพวกนี้เป็นเดรัจฉานวิชา แล้วอย่างนี้สรุปว่าพระเกจิหลายๆรูปต่างทำผิดกฏข้อห้ามหรอครับ ถ้างั้นแสดงว่าผิดมานานมากแล้วประชาชนทั่วไปห้อยพระผิดไหมครับ

ขออนุญาติผู้ที่เข้ามาอ่านผมนับถือพระเกจิทุกรูปครับนับถือคำสอนท่านแต่ที่ผมเจอมาผมสับสนครับ ขอความกระจ่างทีครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 22 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระภิกษุบวชมาแล้วเพื่อขัดเกลากิเลส ไม่กระทำอย่างคฤหัสถ์ มีกิจ คือ ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญา ดับกิเลส ไม่ใช่การปลุกเสก ที่ผิดพระวินัย แย้งกับเรื่องกรรมและผลของกรรม ครับ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงห้ามสสิ่งเหล่านี้ไว้ครับ พระพุทธเจ้าทรงแสดง การเว้นสิ่งที่ไม่เหมาะสมของพระภิกษุดังนี้ ครับ

มหาศีล

(๑๑๔) ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายฟ้าผ่าเป็นต้น ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ ทำพิธีซัดรำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู


พระธรรมอยู่ในใจหมายถึงการเข้าใจพระธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้องซึ่งเหตุของการเข้าใจพระธรรมคือการฟังพระธรรม จนปัญญาเห็นถูกตามความเป็นจริง เหตุของการเข้าใจพระธรรมไม่ได้อยู่ที่การมีพระมาแขวนที่คอ หรือมีพระพุทธรูปในบ้านมากมาย แม้ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ก็ทรงแสดงว่าแม้ภิกษุจะจับชายสังฆาฏิเราก็ไม่ชื่อว่าอยู่ใกล้เรา แต่ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าอยู่ใกล้เราแม้ผู้นั้นจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 22 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ที่กล่าวว่าเป็นพระเกจิ ก็คือ พระพวกหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เข้าใจในพระธรรมคำสอนของพระสัมมาพุทธเจ้า ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้ เป็นโทษกับตนเองแล้วยังเผยแพร่ความหลงงมงายให้กับผู้อื่นอีก กล่าวได้ว่า เป็นโทษกับตนเองก่อนแล้วก็ยังก่อโทษให้กับผู้อื่นอีกและเป็นการทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงต้องกลับมาตั้งต้นศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย เป็นที่พึ่งที่แท้จริง เมื่อเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งใด ผิด สิ่งใด ถูก เมื่อรู้แล้วว่าสิ่งใดผิด ก็ทิ้งสิ่งที่ผิดได้เลย โดยไม่ต้องรีรอและไม่ต้องเสียดายด้วย เพราะสิ่งที่ผิด ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ครับ

คำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีดังนี้

~ ภิกษุที่ทำเครื่องรางของขลัง นั่น ไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย เพราะว่าภิกษุ คือ ผู้ที่เห็นภัยในสังสารวัฏฏ์ เพราะฉะนั้น เมื่อมีธรรมที่จะทำให้พ้นจากภัยในสังสารวัฏฏ์ จึงสละเพศคฤหัสถ์ ไม่ทำกิจอื่นที่ไม่ใช่กิจของภิกษุ ไม่ทำเครื่องรางของขลัง ทุกอย่างต้องตรง มิฉะนั้น ประเทศชาติก็เป็นอย่างนี้ คือ มีแต่เครื่องรางของขลัง เป็นที่พึ่ง ไม่ใช่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

~ เครื่องรางของขลัง เป็นการหลอกลวงหรือเปล่า? ผ้าธรรมดาแล้วไปให้คนอื่นเขาเชื่อว่าเป็นของขลัง ทำอะไรมาผ้านั้นถึงจะขลัง แล้วคนที่เขาไม่มีเครื่องรางของขลังเลย ได้ลาภมหาศาลมีไหม? มี แล้วคนที่มีเครื่องรางของขลัง แต่ประสบภัยพิบัติต่างๆ มีไหม? ก็มี แล้วทำไมถึงไปหลงคิดว่านั่นเป็นเครื่องรางของขลัง?

~ ภัยที่ร้ายที่สุด คือ ทำให้คนเข้าใจพระพุทธศาสนาผิด เป็นการทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลผู้เลิศทุกประการ ทั้งในทางอิทธิปาฏิหาริย์ ไม่มีผ้ายันต์เลย แต่มีคำสอนทุกคำที่จะทำให้ทุกคน จากความไม่รู้ เป็นผู้มีความเข้าใจขึ้น จนกระทั่งสามารถดับกิเลสได้

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
lokiya
วันที่ 23 ต.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ