โลกไม่ซึมซาบใจ

 
unnop.h
วันที่  8 มี.ค. 2564
หมายเลข  33838
อ่าน  659

* โลก ในที่นี้หมายถึงสังขารโลก คือ สภาพธรรมที่อาศัยปัจจัยปรุงแต่ง เกิดแล้วดับ ได้แก่ จิต (สภาพรู้ที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้สิ่งที่ปรากฏ) เจตสิก (สภาพรู้ที่เกิดประกอบพร้อมกับจิต เช่น ความรู้สึก ความจำ ความจงใจ) และรูป (สภาพที่ไม่ใช่ธาตุรู้ เช่น สี เสียง กลิ่น รส เย็น-ร้อน อ่อน-แข็ง ตึง-ไหว)

* โลก ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เช่น โลกทางตา ก็ต้องมีสิ่งที่ปรากฏทางตาคือสี มีตา มีสภาพรู้ทางตา

* เมื่อยังมีพืชเชื้อกิเลสในจิต ที่ยังไม่ได้ดับ ก็มีปัจจัยให้กิเลสเกิดขึ้น ซึมซาบ ไหลไป คืออาสวะ ในโลกทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อยู่เสมอ โดยไม่รู้เลย จึงมีกิเลสซึมซาบอยู่เป็นปกติ

* พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า (และพระอรหันต์ทั้งหลาย) ทรงประจักษ์แจ้งโลกตามความเป็นจริง และพ้นจากอาสวะทั้งหลาย (ความติดข้อง ความเห็นผิด ความไม่รู้) ซึ่งเป็นกิเลสบางเบา ที่ซึมซาบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงเป็นพุทธะ

* พระสูตรนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ท่านโทณพราหมณ์ ทำให้ท่านได้บรรลุคุณธรรมเป็นพระอนาคามีบุคคล ซึ่งต่อมาภายหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้ว ท่านได้ระงับการทะเลาะกันของเหล่ากษัตริย์ทั่วพื้นชมพูทวีป ที่ต่างต้องการพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยการกล่าวคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และท่านก็ได้เป็นผู้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ อย่างเหมาะสม


โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 8 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Nattaya40
วันที่ 9 มี.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เข้าใจ
วันที่ 10 มี.ค. 2564

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pulit
วันที่ 11 มี.ค. 2564

กราบอนุโมทนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kullawat
วันที่ 17 มี.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ