ปาฏิหาริย์เมื่อไหร่
* โดยทั่วไป เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตเกิดขึ้น และสามารถรอดพ้นมาได้ ก็จะคิดกันว่ามีปาฏิหาริย์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาล
* แต่ความเป็นจริงแล้ว ที่รอดพ้นอันตรายมาได้ ก็เพราะมีเหตุปัจจัย คือกรรมดีที่ได้กระทำไว้แล้ว ซึ่งสะสมสืบต่อในจิตให้ผล จึงรอดพ้นจากอันตราย และเพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะตาย
* สิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์หรืออัศจรรย์อย่างแท้จริง และมีประโยชน์อย่างยิ่งในชีวิต ก็คือปาฏิหาริย์ของพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (รวมถึงพระสาวก) ทรงมีพระมหากรุณาคุณ แสดงแล้วๆ เล่าๆ (อนุศาสนีปาฏิหาริย์) เพื่อผู้ฟังสามารถได้ยิน ได้ฟังคำจริง ที่ทำให้สามารถเข้าใจความจริง อย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน จึงทิ้งในสิ่งผิดที่เคยยึดถือมา และรับเอาในสิ่งที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
* การที่ได้เข้าใจความจริงตามพระธรรมว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะ ไม่ใช่เรา จึงเริ่มรู้ว่าที่เคยยึดถือไว้มั่นคงว่า มีเรา มีของเรา นั้น แท้จริงแล้ว ไม่ใช่ความจริงเลย และถ้าปัญญาเจริญขึ้นจนประจักษ์ในความเป็นธัมมะ ที่ไม่ใช่ตัวเราจริงๆ เพราะเป็นเพียงสภาพธัมมะที่เกิดแล้ว ดับแล้ว ไม่เหลือ ไม่กลับมาเลย ในขณะนี้เอง ก็จะเป็นปาฏิหาริย์ เป็นอัศจรรย์ อย่างยิ่ง
* ดังนั้น จะมีปาฏิหาริย์ได้ ก็ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรม เข้าใจความจริง
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม