ปัญหาเกี่ยวกับเทวตาพลี
ขอกราบเรียนถามครับ จากข้อความบางตอนของปัตตกัมมสูตรที่ว่า "....อีกข้อหนึ่ง อริยสาวกย่อมเป็นผู้ทำพลี ๕ คือญาติพลี (สงเคราะห์ญาติ) อติถิพลี (ต้อนรับแขก) ปุพพเปตพลี (ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย) ราชพลี (ช่วยราชการ) เทวตาพลี (ทำบุญอุทิศให้เทวดา) ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน..." คำว่า เทวตาพลี หรือ ทำบุญอุทิศให้เทวดานี้ จะหมายความถึงอย่างไรครับ เช่น การเซ่นไหว้เทพเจ้าตามประเพณีของชาวจีนจะสงเคราะห์เข้าในข้อนี้หรือไม่ครับ เพราะตั้งแต่เป็นสมาชิก มศพ. ผมก็ได้เลิกกราบเลิกเซ่นไหว้ศาลเจ้าที่บ้านไปแล้ว จึงใคร่ขอความละเอียดในคำนี้ครับ
กราบอนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คำว่า พลีกรรม ตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ หมายถึง การสละ การสละ มี ๒ ประเภท สละเพื่อช่วยเหลือสงเคราะห์ ๑ สละเพื่อบูชาคุณ
การเซ่นไหว้เทพเจ้าตามประเพณีของชาวจีนจะสงเคราะห์ ไม่ใช่เทวตาพลี เพราะเทวตาพลี หมายถึง การทำกุศลประการต่างๆ แล้วอุทิศส่วนกุศลให้เทวดา ครับ
อีกประการหนึ่ง อริยสาวกย่อมใช้จ่ายโภคทรัพย์ที่ตนหามาได้ด้วยความหมั่น ความขยัน สะสมขึ้นด้วยกำลังแขน อาบเหงื่อต่างน้ำ ชอบธรรม ได้มาโดยธรรม ทำพลี ๕ อย่าง คือ
๑. ญาติพลี [บำรุงญาติ]
๒. อติถิพลี [ต้อนรับแขก]
๓. ปุพพเปตพลี [บำรุงญาติผู้ตายไปแล้วคือทำบุญอุทิศกุศลให้]
๔. ราชพลี [บำรุงราชการ คือบริจาคทรัพย์ช่วยชาติ]
๕. เทวตาพลี [บำรุงเทวดา คือทำบุญอุทิศให้เทวดา]
ขออนุโมทนา
ที่มา...
๑. อาทิยสูตร ว่าด้วยหลักการใช้โภคทรัพย์ให้เป็นประโยชน์ ๕ อย่าง
กราบเรียนสนทนาเพิ่มอีกนิดเพื่อความกระจ่างเรื่องคำว่าเทวตาพลีนะครับ
การทำบุญอุทิศให้เทวดาคือเป็นอย่างไรครับ? หากที่ผมเข้าใจตามลำดับคือเมื่อทำสิ่งใดที่เป็นกุศลแล้วเกิดความแช่มชื่นขึ้นในจิตก่อน จึงได้กล่าวอุทิศบุญนั้นลอยๆให้แก่เทวดาโดยไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นเทวดาผู้ใด เช่นนี้จึงได้ชื่อว่าเทวตาพลีสมดังคำที่พระพุทธองค์ทรงตรัสหรือไม่ครับ แล้วจึงเทวดาใดหากทราบด้วยญาณและหากประสงค์ที่จะอนุโมทนาก็จะอนุโมทนาเอง เช่นนี้หรืออย่างไรครับ ขอกราบเรียนถามเพื่อความเข้าใจครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เรียน ความคิดเห็นที่ ๕ ครับ
สิ่งที่เทวดาประสงค์หรือต้องการ ไม่ใช่อาหารหรือวัตถุสิ่งของ แต่เป็นคุณความดีของผู้ที่เป็นมนุษย์ได้กระทำแล้ว แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ เทวดาย่อจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ คือ เกิดกุศลจิตอนุโมทนาชื่นชมยินดีในความดีที่เราได้กระทำ เป็นการได้บูชาเทวดาจริงๆ ด้วยความถูกต้อง ไม่ใช่การทำอะไรที่ผิดตามๆ กันไป ดังนั้น การทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่เทวดา ก็เป็นไปตามที่คุณ abhirak ได้กล่าวมา ไม่ใช่ด้วยอย่างอื่นเลย ใครที่มีโอกาสได้รับรู้และเกิดกุศลจิตชื่นชมยินดี ก็เป็นกุศลจิตของผู้นั้น
ซึ่งจะเห็นได้ว่า เมื่อแสวงหาทรัพย์ได้มาโดยชอบธรรมแล้ว ผู้ที่เข้าใจถูกเห็นถูกในธรรมตรงตามความเป็นจริง ย่อมใช้จ่ายทรัพย์ใทางที่เป็นประโยชน์ ด้วยการเลี้ยงตนเอง เลี้ยงมารดา บิดา เป็นต้นให้เป็นสุข ใช้ทรัพย์ในการป้องกันภัยอันตรายต่างๆ รวมถึงใช้ทรัพย์ในการทำพลีกรรม ๕ อย่าง คือ สงเคราะห์ญาติ ต้อนรับแขก ช่วยราชการ ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย ทำบุญอุทิศให้เทวดา และที่สำคัญพลีกรรมในทางพระพุทธศาสนา ต้องเป็นไปในทางที่เป็นกุศล ไม่ใช่อกุศล ไม่ใช่การทำอะไรด้วยความไม่รู้ ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
การอุทิศกุศลเป็นความดี การยินดีในกุศลที่บุคคลอื่นทำเป็นความดี การฟังธรรมเป็นความดี ทุกครั้งที่ทำความดีอุทิศกุศลให้สรรพสัตว์และเทวดาเป็นกุศลจิตค่ะ
ขอถามเพิ่มครับ เวลาให้ทานแล้วไม่มีผู้รับจะสำเร็จแก่เปรตผู้เป็นญาติ
ถ้าผมนำอาหารไปวางไว้กลางแจ้งเพื่อให้เปรตกิน ถือเป้นปุพเปตพลีไหมครับ
แล้วเราควรทำยังไงกับอาหารนั้นทิ้งไว้ให้สัตว์เล็กสัตว์น้อยกินต่อ หรือนำกลับมากินเองดีกว่า
ถ้าเข้าใจผิดรบกวนสอนผมด้วยนะครับ