ความกังวลย่อมไม่มีแก่ผู้รู้ความจริง
* โมหะ คือความไม่รู้ ซึ่งปิดบังไม่ให้รู้ความจริงที่ปรากฏในโลกทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จึงหลงผิด คิดว่าเป็นคน สัตว์ สิ่งต่างๆ ที่น่าพอใจ
* คนพาล (ผู้ที่ไม่มีปัญญาที่จะรู้ความจริง) มีอุปธิกิเลส (สภาพที่ทรงไว้ซึ่งทุกข์คือกิเลส) เป็นเครื่องผูกไว้ ด้วยความมืดคือโมหะ ที่ทำให้ไม่สามารถรู้ตามความเป็นจริงได้เลย จึงยึดถือสิ่งต่างๆ ว่าเที่ยง ยั่งยืน ซึ่งเป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรมต่างๆ ต่อไป
* ส่วนผู้มีปัญญา แม้ยามมีภัย ก็จะไม่หวั่นไหว กังวลใดๆ เพราะมีความเข้าใจมั่นคงในความเป็นธรรม ที่ไม่ใช่เรา
* พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสพระธรรมนี้ เพราะเหตุที่พระภิกษุได้กราบทูลถามถึงการกระทำกาละ (ตาย) ของอุบาสิกาห้าร้อย ซึ่งมีพระนางสามาวดี (อัครมเหสีของพระเจ้าอุเทน) เป็นประมุข ที่ถูกพระนางมาคันทิยา (อัครมเหสีอีกพระองค์หนึ่ง) ผู้มีความริษยา สั่งให้เผาพระตำหนักของพระนางสามาวดี
* พระนางสามาวดี และอุบาสิกาบริวารทั้งหมดที่ถูกไฟคลอกมรณะนั้น เป็นพระโสดาบันก็มี พระสกทาคามีก็มึ พระอนาคามีก็มี
* ท่านทั้งหมดนั้น แม้กำลังใกล้มรณะ แต่ก็ไม่ได้กังวล เพราะเป็นผู้มั่นคงในการอบรมเจริญปัญญารู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม