กรรม คือเจตนา แต่พอฟังว่าจิตเกิดดับเร็ว บางครั้งให้ความรู้สึกสับสนค่ะ

 
ปทุม
วันที่  27 มี.ค. 2564
หมายเลข  33949
อ่าน  457

ค่ะ หนูไม่ได้อยากรบกวนอาจารย์วิทยากรนะคะ แต่มันมีอีกมุมและอีกเรื่องที่ทำให้หนูรู้สึกสับสน (ต่อให้จะทราบจากคำตอบอาจารย์วิทยากรในประเด็นที่แล้วว่า ถ้าสัตว์นั้นมีชีวิต แต่ตายโดยที่เรามีเจตนาหลีกเลี่ยงแล้ว ถือว่าไม่ผิดศีลก็ตามค่ะ) คือหนูประกอบอาชีพขายต้นไม้ มันก็จะต้องมีการพ่นฉีดสารเคมี แล้วสารเคมีที่พ่นมันมีอันตรายต่อแมลงค่ะ คือครั้งจะใช้สมุนไพรแทนสารเคมี มันไม่ได้ผลเลยค่ะ แมลงยังคงมารบกวน แล้วเวลาฉีด ถ้าบังเอิญเห็นจิ้งเหลน ตัวตุ๊กแก ก็จะพยายามหลีกเลี่ยง แต่มันก็มีที่โดนบ้าง แล้วจิตก็มีคิดว่าถ้าโดนสัตว์ ตายก็ตาย คือพยายามเลี่ยงที่สุดแล้วจนเหนื่อยใจ

ในกรณีนี้ จะเป็นการคล้ายกันกับการที่พยายามหลีกแบบที่พยายามไม่ให้รถที่เป็นอันตรายต่อตัวปลา ทับตัวปลาไหมคะ

* * แล้วในที่นี้ ใครใช้สมุนไพรอะไรที่ได้ผลที่แมลงไม่มารบกวนบ้างไหมคะ

ปล. คือเนื่องจากสวนอื่นๆ เขาผสมใช้สารเคมีในอัตราที่เข้มข้นมาก แมลงเลยมาอยู่ที่สวนหนู มันก็ค่อนข้างจะเดือดร้อนต่อต้นไม้ของที่บ้านที่เป็นเป้าหมายของพวกแมลง (เพราะที่บ้านจะพยายามผสมให้น้อยๆ ให้แมลงไม่มารบกวนแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลเลยค่ะ แล้วจะถือเป็นการล่วงศีลไหมคะ

กราบขอบพระคุณจากใจเลยค่ะ เพราะในประเด็นนี้มันค้างคาใจหนูอยู่อย่างมากเลยค่ะ แล้วหนูก็ไม่ได้อยากรบกวนอาจารย์วิทยากรเลย แต่มันยังไม่กระจ่างสำหรับหนูจริงๆ ค่ะ แล้วหนูก็คิดว่าประเด็นคำถามนี้ น่าที่จะเป็นประโยชน์สำหรับชาวสวนที่ไม่ค่อยอยากผิดศีลค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 28 มี.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เจตนาหลีกเลี่ยง ไม่ใช่มีเจตนาฆ่า ครับ จึงไม่ได้เป็นการทำบาป ไม่ใช่การทำปาณาติบาต

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ ๑๐๓

พระเจ้าอโศกตรัสถามข้อสงสัยในเรื่องบาป

พระราชา ทอดพระเนตรเห็นปาฏิหาริย์นั้นแล้ว ก็ตกลงพระทัยว่าบัดนี้ พระเถระจักสามารถเพื่อจะยกย่องพระศาสนาได้ จึงตรัสถามความสงสัยของพระองค์ว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ! โยมได้ส่งอำมาตย์นายหนึ่งไปด้วยสั่งว่า เธอไปยังพระวิหารระงับอธิกรณ์แล้วนิมนต์ให้ภิกษุสงฆ์ทำอุโบสถเถิดดังนี้ เขาไปยังพระวิหารแล้ว ได้ปลงภิกษุเสียจากชีวิตจำนวนเท่านี้รูป บาปนั้นจะมีแก่ใคร ?

พระเถระ ทูลถามว่า ขอถวายพระพร! ก็พระองค์มีความคิดหรือว่าอำมาตย์นี้ จงไปยังพระวิหารแล้ว ฆ่าภิกษุทั้งหลายเสีย.

พระราชา ไม่มี เจ้าข้า.

พระเถระ  ขอถวายพระพร ถ้าพระองค์ไม่มีความคิดเห็นปานนี้ไซร้บาปไม่มีแด่พระองค์เลย.

พระโมคคลีบุตรติสสเถระอ้างพระพุทธพจน์เล่าอดีตนิทาน 

ลำดับนั้น พระเถระ (ถวายวิสัชนา) ให้พระราชาทรงเข้าพระทัยเนื้อความนี้ด้วยพระสูตรนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม บุคคลคิดแล้ว จึงกระทำกรรมด้วยกาย วาจา ใจ ๑ ดังนี้. เพื่อแสดงเนื้อความนั้นนั่นแล พระเถระจึงนำติดติรชาดกมา ๒ (เป็นอุทาหรณ์) ดังต่อไปนี้.

ขอถวายพระพร มหาบพิตร ในอดีตกาล นกกระทาชื่อ ทีปกะเรียนถามพระดาบสว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ นกเป็นอันมาก เข้าใจว่า ญาติของพวกเราจับอยู่แล้ว จึงพากันมา นายพรานอาศัยข้าพเจ้าย่อมถูกต้องกรรม เมื่อนายพรานอาศัยข้าพเจ้าทำบาป นั้น ใจข้าพเจ้า ย่อมสงสัย ว่า (บาปนั้น จะมีแก่ข้าพเจ้า หรือหนอ)

พระดาบส ตอบว่า ก็ท่านมีความคิด (อย่างนี้) หรือว่า ขอนกทั้งหลายเหล่านี้มา เพราะเสียง และเพราะเห็นรูปของเราแล้วจงถูกแร้ว หรือจงถูกฆ่า นกกระทา เรียนว่า ไม่มีท่านผู้เจริญ 

ลำดับนั้น ดาบสจึงให้นกกระทานั้นเข้าใจยินยอมว่า ถ้าท่านไม่มีความคิดไซร้ บาปก็ไม่มีแท้จริง กรรมย่อมถูกต้องบุคคลผู้คิดอยู่เท่านั้น หาถูกต้องบุคคลผู้ไม่คิดไม่ ถ้าใจของท่าน ไม่ประทุษร้าย (ในการทำความชั่ว) ไซร้ กรรมที่นายพราน อาศัยท่านกระทำ ก็ไม่ถูกต้องท่าน บาปก็ไม่ติดเปื้อนท่าน ผู้มีความขวนขวายน้อย ผู้เจริญ (คือบริสุทธิ์).

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปทุม
วันที่ 28 มี.ค. 2564

กราบขอบพระคุณอย่างมากๆเลยค่ะ ที่บ้านหนูสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะกังวลใจเรื่องนี้มานานแล้วค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 28 มี.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำคัญที่เจตนาจริง ว่า จงใจตั้งใจอย่างไร ถ้าไม่ได้มีเจตนาฆ่า มีเจตนาป้องกัน ก็ไม่ใช่การทำอกุศลกรรม เทียบเคียงกับการจุดประทีบน้ำมัน เพื่อให้เกิดความสว่างในยามค่ำคืน จุดประสงค์คืออย่างนี้ แล้วถ้าหากมีแมลงบินมา พากันตายเป็นอันมาก ก็ไม่ใช่ความผิดของผู้จุดประทีปน้ำมัน ดังเหตุการณ์ในสมัยครั้งพุทธกาล ตามข้อความในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน อุปาติสูตร ดังนี้

[เล่มที่ 45] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ ๖๔๘

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งในที่แจ้งในความมืดตื้อในราตรี เมื่อประทีปน้ำมันลุกโพลงอยู่ ก็สมัยนั้นแล ตัวแมลงเป็นอันมากตกลงรอบๆ ที่ประทีปนำมันเหล่านั้น ย่อมถึงความทุกข์ ความพินาศ ความย่อยยับ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าไค้ทรงเห็นตัวแมลงเป็นอันมากเหล่านั้น ตกลงรอบๆ ที่ประทีปน้ำมันเหล่านั้น ถึงความทุกข์ ความพินาศ ความย่อยยับ


...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
talaykwang
วันที่ 28 มี.ค. 2564

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลค่ะ

 

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 28 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ