เหตุดี ผลดี

 
unnop.h
วันที่  30 มี.ค. 2564
หมายเลข  33964
อ่าน  1,030

* ทุกอย่างที่เกิด ต้องมีเหตุให้เกิดทั้งสิ้น แต่ถ้าไม่รู้เหตุ และผลที่เกิดจากเหตุนั้นตามความจริง แล้วจะให้เชื่อในเหตุในผลนั้นจริงๆ ได้อย่างไรเล่า

* การที่จะมั่นคงในเหตุในผลตามธรรมจริงๆ นั้น ต้องมีความเข้าใจสภาพธรรมถูกต้องตรงตามความเป็นจริง

* เช่น ถ้าจะให้เชื่อในเรื่องกรรมและผลของกรรม โดยเพียงบอกว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎแห่งกรรม แต่เมื่อไม่รู้ว่ากรรมคืออะไร ผลของกรรมคืออะไร ตามความเป็นจริง บางคนก็ไม่เชื่อ บางคนก็เพียงเชื่อตาม แต่ไม่ใช่ด้วยความเข้าใจในเหตุผลจริงๆ

* กรรมคือ เจตนา ซึ่งเป็นสภาพที่ขวนขวาย จงใจกระทำ

- ถ้าเป็นเจตนาที่ดีเป็นกุศล ที่ช่วยให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์สุข ก็เป็นกุศลกรรม (กรรมดี)

- ถ้าเป็นเจตนาที่ไม่ดีเป็นอกุศล ที่เป็นไปในการเบียดเบียนผู้อื่น ก็เป็นอกุศลกรรม (กรรมชั่ว)

* ไม่ว่าจะเป็นกุศลกรรม หรืออกุศลกรรม ก็มีสภาพความจงใจนั้นจริงๆ ดังนั้นกรรมจึงมีจริง และมีตอนที่กำลังจงใจกระทำนั่นเอง

* กุศลกรรมหรืออกุศลกรรมที่เกิดแล้วก็ดับไป แต่จะสะสมสืบต่อไปในจิตขณะต่อๆ ไป และเมื่อมีโอกาส กรรมนั้นก็จะให้ผล ตรงตามกรรมซึ่งเป็นเหตุ คือกุศลกรรม ย่อมให้ผลที่ดี และอกุศลกรรม ย่อมให้ผลที่ไม่ดี

* การให้ผลของกรรมก็คือ

- ขณะจิตแรกที่เกิดเป็นบุคคลนี้ (มีจิต เจตสิก รูป ที่เกิดจากกรรม) ขณะจิตที่หลับสนิท และขณะจิตที่เคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ (ตาย) ไปเป็นบุคคลใหม่ในภพใหม่

- ขณะเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส และกระทบสัมผัสสิ่งที่ปรากฏทางกาย ที่น่าพอใจบ้าง ไม่น่าพอใจบ้าง เป็นต้น

* ดังนั้นกรรมดี ย่อมให้ผลดี และกรรมดี จะเพิ่มพูนขึ้นได้ ก็เพราะมีความเข้าใจในเหตุในผล ที่ถูกต้องตรงตามสภาพธรรม ซึ่งเกิดจากการฟังพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง


โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 30 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
kullawat
วันที่ 31 มี.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ