[คำที่ ๕๐๓] อตฺถาย
ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ “อตฺถาย”
อตฺถาย อ่านตามภาษาบาลีว่า อัด - ถา - ยะ แปลว่า เพื่อประโยชน์ ในที่นี้ขอเสนอในความหมายของการแสดงพระธรรม เปิดเผยความจริง ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อประโยชน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี มีคุณค่าสูงสุด แก่ผู้ที่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษา เป็นประโยชน์แก่ชนหมู่มากอย่างแท้จริง เพราะทำให้เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นปัญญาของผู้ที่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เกิดจากพระปัญญาตรัสรู้ของพระองค์ แต่ละคำเป็นคำจริง เป็นคำอนุเคราะห์เกื้อกูล ทำให้ผู้ฟังผู้ศึกษาได้รับประโยชน์ตามกำลังปัญญาของแต่ละคน ซึ่งมีบุคคลผู้ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งผู้ที่เป็นมนุษย์ เทวดารวมถึงพรหมบุคคลด้วย
ข้อความในพระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ทุติยปาสสูตร แสดงความเป็นจริงถึงจุดมุ่งหมายที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงส่งพระสาวกไปประกาศพระศาสนา เพื่อแสดงความจริง ดังนี้
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงเที่ยวจาริกไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก เพื่อความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เธอทั้งหลาย อย่าได้ไปทางเดียวกัน ๒ รูป ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงแสดงธรรม งามในเบื้องต้น
งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง สัตว์ทั้งหลายผู้มีธุลีในจักษุน้อย (มีกิเลสน้อย) มีอยู่ เพราะไม่ได้ฟังธรรม ย่อมเสื่อมเสีย ผู้รู้ทั่วถึงซึ่งธรรม ยังจักมี ดูกร ภิกษุทั้งหลาย แม้เราก็จักไปยังอุรุเวลาเสนานิคม เพื่อแสดงธรรม
ไม่ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติหรือไม่อุบัติขึ้นในโลกก็ตาม ธรรม คือ สิ่งที่มีจริงๆ เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่เมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้แล้ว จึงทรงแสดงพระธรรมอันแสดงถึงสิ่งที่มีจริง ตามความเป็นจริง เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลก เมื่อเป็นความจริง ก็ย่อมจะพิสูจน์ได้ทุกกาลสมัย ธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงๆ แต่ละหนึ่งๆ นั้น ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตน จะไม่เปลี่ยนลักษณะไปเป็นอย่างอื่น เพราะเป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้วความจริงเป็นอย่างไร ก่อนหน้านั้นหรือว่าต่อไปในภายหน้าอีกนานแสนนาน ความจริงนี้ก็ไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น นี้คือความหมายของธรรม คือ สิ่งที่มีจริงทั้งหมด ทรงไว้ซึ่งความเป็นจริงอย่างนั้น ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ และบุคคลผู้ที่ทรงแสดงพระธรรมโดยละเอียด โดยประการทั้งปวง ถึงที่สุดก็คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ได้ทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา ด้วยพระหฤทัยที่ประกอบด้วยพระมหากรุณาที่มีต่อสัตว์โลก ให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก พ้นจากกิเลสอันเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง มีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงมากมาย นับไม่ถ้วน ในยุคนี้สมัยนี้ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังดำรงอยู่ ยังไม่ลบเลือนเสื่อมสูญไป พร้อมที่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เห็นคุณค่า ที่จะฟังที่จะศึกษาด้วยความเคารพ
ธรรม เป็นสิ่งที่ละเอียด ลึกซึ้งอย่างยิ่ง แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กว่าที่พระองค์จะได้ตรัสรู้นั้น ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลาถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ เป็นเวลาที่ยาวนานเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหมดทั้งปวงนั้นไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของพระองค์เพียงพระองค์เดียว แต่เพื่อประโยชน์ของสัตว์โลกทั้งปวง เมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว ทรงมีพระมหากรุณาแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา ตั้งแต่เริ่มประกาศพระศาสนาจนกระทั่งถึงเวลาที่พระองค์ใกล้จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ทรงอนุเคราะห์สัตว์โลกด้วยการแสดงพระธรรมตามสมควรแก่อัธยาศัยของผู้ฟัง ซึ่งผู้ที่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม บรรลุเป็นพระอรหันต์ถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลส สิ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน นอกจากนั้นแล้ว พระอริยบุคคลขั้นอื่นๆ กล่าวคือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี ตลอดจนถึงผู้ที่ยังไม่ได้บรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลก็ได้ถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นที่พึ่งต่อไปในภายหน้า ก็มีเป็นจำนวนมากนับไม่ถ้วนเช่นเดียวกัน เป็นผู้ที่ไม่เสื่อมโดยประการทั้งปวง ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นประโยชน์ที่ได้รับจากการฟัง การศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นยอดของบุคคลผู้แสดงพระธรรม ไม่มีใครที่จะมีพระมหากรุณาเท่ากับพระองค์ได้เลย ต่อให้เอาคุณความดีของบุคคลทั้งโลกมารวมกัน ก็ไม่มีทางเทียบได้กับพระคุณอันประเสริฐยิ่งของพระองค์
การที่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะดำรงอยู่ต่อไป ก็ด้วยความเข้าใจพระธรรมของผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษา บุคคลผู้ที่ได้เข้าใจพระธรรม เห็นประโยชน์ของพระธรรมที่จะดำรงอยู่ต่อไป ก็กล่าวพระธรรม เปิดเผยพระธรรมตามที่พระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ในฐานะที่เป็นคนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็กล่าวคำของพระองค์ เพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นจะได้ฟังได้ศึกษาได้สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป ไม่มีความตระหนี่ธรรม ไม่เห็นแก่ตัว ผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรมแล้วกล่าวพระธรรมเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกของผู้อื่น เป็นผู้ที่หวังดีอย่างยิ่ง
การกล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่บุคคลอื่นอย่างแท้จริง เป็นการให้สิ่งที่ประเสริฐที่สุดคือความเข้าใจถูก ซึ่งจะเป็นพืชเชื้อที่จะเจริญต่อไปในสังสารวัฏฏ์ แต่ถ้าไม่ได้กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย บุคคลอื่นจะมีโอกาสได้ยินได้ฟังได้อย่างไร เขาจะอยู่ต่อไปในสังสารวัฏฏ์อีกนานเพียงใด ไม่มีทางรู้ความจริงที่จะดับกิเลสได้เลย
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว เป็นศาสดาแทนพระองค์ เป็นสิ่งที่จะพร่ำสอนแทนพระองค์ จึงควรอย่างยิ่งที่จะได้ศึกษาให้เข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริงด้วยความไม่ประมาท ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงเป็นกิจหน้าที่สำคัญของพุทธบริษัท จะได้ร่วมกันศึกษาสิ่งที่ประเสริฐที่สุด คือ พระธรรมแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว แล้วเผยแพร่พระธรรม ตามที่ได้ศึกษามา ตามกำลังปัญญาของตนเอง เกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อสืบต่อความเข้าใจที่ถูกต้องให้เจริญยิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งเป็นการช่วยกันดำรงรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุด ด้วยแนวทางที่ถูกต้อง ไม่ทำในสิ่งที่ผิดตามๆ กันไปด้วยความหลงด้วยความไม่รู้
อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ