ธรรมกับการทำงานในชีวิตประจำวัน
สมศรี : เรียนอาจารย์เรียนสอบถามค่ะ ผู้ถามเริ่มฟังการสนทนาของอาจารย์สุจินต์ทุกวัน วันนี้มีคำถามค่ะ ในการทำงานถูกสอนให้มานะพากเพียรให้ไปสู่เป้าหมายจนสำเร็จเป็นความอยากที่เป็นกิเลสเพราะในการทำงานจำเป็นต้องมีความต้องการ นั่น นี่ โน่นเพื่อให้งานสำเร็จแต่ยังใช้สติในการทำงาน
ความอยากนี้คือกุศลหรืออกุศล ตัวอย่างเช่น รักษาผู้ป่วยจนหายแล้วรู้สึกดีใจ ทำคลอดเด็กให้เกิดมาหรือเห็นผู้ที่ทุกข์ช่วยให้เขาพันทุกข์เรารู้สึกยินดี
1. อย่างนี้ถือเป็นการใช้ปัญญา และมีธรรมะในข้อฉันทะที่ถูกต้องหรือไม่คะ
2. การฟังและสนทนาธรรมค่อยๆ ฟังเพื่อการละตัวตนนำมาใช้กับการทำงานพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้อย่างไรบ้างค่ะ
3. เมื่อตายลงสิ่งที่ทำไว้นี้จะเป็นความเกี่ยวพันที่ทำให้เราเกิดมาทำงานแบบเดิมอีกหรือไม่คะ
อ.อรรณพ :
1. จริงๆ แล้ว ไม่มีเราที่จะใช้ปัญญาครับ เพราะทุกอย่างเป็นธรรม ที่ไม่ใช่เรา แต่ปัญญาคือความเข้าใจธรรมถูกต้องตามความเป็นจริงจากการฟังพระธรรม จะเป็นประโยชน์ในทุกที่ ทุกกาล เพราะปัจจัยให้กุศลเกิดเพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะทำกิจการงานใดทั้งสิ้น และกุศลฉันทะในการฟังธรรมและทำดี ก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับครับ
2. ดังนั้นการฟังธรรม สนทนาธรรม เพื่อความเข้าใจว่าเป็นธรรม ที่ไม่ใช่เรา จะค่อยๆ ขัดเกลาความเป็นเราไปตามลำดับ เมื่อเข้าใจว่าไม่มีเราเพิ่มขึ้น ก็จะละคลายความเห็นแก่ตัวลง (เพราะเริ่มรู้ว่าไม่มีตัวเรา) จึงน้อมไปที่จะทำประโยชน์มากขึ้น ด้วยเมตตาซึ่งเป็นกุศล ไม่ใช่ความอยากซึ่งเป็นอกุศลครับ
3. การกระทำที่ดี เป็นกุศลกรรม สามารถให้ผลคือปฏิสนธิในสุคติภูมิ และการสะสมอุปนิสัยความคุ้นชินในด้านใด เช่น การรักษาพยาบาล ก็จะมีการน้อมไปที่เป็นเช่นนั้นตามที่เคยสะสมมาครับ