บอกว่าตนเห็นผี เห็นสวรรค์ ฯ เป็นการอวดตัวหรือไม่

 
mrvit
วันที่  11 เม.ย. 2550
หมายเลข  3404
อ่าน  1,895

มีพระบางรูป หรือผู้บรรยายธรรมบางท่านบอกว่าตนเคยเห็นผี เห็นสวรรค์ ผมมีความรู้สึกว่าเป็นการอวดตนครับ หากว่าพูดบ่อยๆ นะครับ ไม่ทราบว่าอาจารย์ สุจินต์ มีความเห็นว่าอย่างไรครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 12 เม.ย. 2550

การที่มีบุคคลพูดถึงการเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เกินวิสัยสายตาของมนุษย์ เท่ากับว่าพูดถึงคุณวิเศษของตน ที่คนอื่นปกติทั่วไปไม่สามารถเห็นได้ เหมือนกับการบอกว่าตนเองมีตาทิพย์ มีหูทิพย์ การบอกคุณวิเศษของตนแก่ผู้อื่นชื่อว่า อวด

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
devout
วันที่ 12 เม.ย. 2550

นอกจากจะยึดถือสิ่งที่ปรากฎทางตาว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้ว ยังยึดถือว่าเป็นเราเห็น ด้วยมานะและทิฏฐิ อวดอ้างว่าเห็นผี เห็นสวรรค์ แต่กิเลสในขณะนั้นกลับไม่เห็น นี่หรือคะที่เรียกว่าคุณวิเศษ ผู้ที่มีคุณวิเศษจริงๆ จะไม่อวดอ้างตนเองเลย

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 12 เม.ย. 2550

ผู้ที่มีคุณธรรมจริงๆ เขาจะไม่อวด กลับจะมักน้อย ไม่ปรารถนาให้คนอื่นรู้ว่าตนเองมีคุณธรรมอะไร ถ้าเป็นพระอวดอ้างว่าตนเองมีดวงตาเห็นธรรม ทั้งๆ ที่ไม่มีก็อาบัติปาราชิกแล้ว คือ ขาดจากความเป็นพระภิกษุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 12 เม.ย. 2550

มีพระบางรูป หรือผู้บรรยายธรรมบางท่าน บอกว่าตนเคยเห็นผี เห็นสวรรค์ ผมมีความรู้สึกว่าเป็นการอวดตนครับ หากว่าพูดบ่อยๆ นะครับ ไม่ทราบมีความเห็นว่าอย่างไรครับเจตนาเพื่ออะไรที่กล่าวครับ พระพุทธเจ้าก็ทรงเห็น และทรงกล่าวก็เพื่อประโยชน์กับสัตว์โลกให้เกิดความเลื่อมใส และบรรลุมรรคผล จึงทรงตรัส และที่สำคัญที่สุดพระพุทธองค์ทรงถึงพร้อมด้วยเหตุที่จะเห็นสวรรค์อะไรต่างๆ คือ ทิพจักขุ แต่การจะได้ทิพจักขุก็ต้องมีเหตุ นั่นคือ เจริญสมถภาวนาจนถึงขั้นสูงสุด จนคล่องแคล่ว ดังนั้นทุกคนก็บอกผลได้ว่า ตัวเองบรรลุแล้ว หรือเห็นสวรรค์ แต่เหตุคืออะไร อบรมอย่างไรตรงนี้สำคัญ จึงควรแสดงเหตุที่จะอบรมถึง ตรงนี้แหละจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า ที่กล่าวมาถูกต้องไหม ลองถามเหตุที่จะให้ถึงดูครับ ว่าอบรมอย่างไร มิใช่กล่าวถึงผลครับเรื่องเหตุผลในการประกาศคุณของตนที่มี เพราะอะไร

เรื่อง เหตุผลในการประกาศคุณ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๑ - หน้าที่ 53

ข้อความบางตอนจาก สุภูติเถรคาถา

ถามว่าก็เพราะเหตุไร พระมหาเถระเหล่านี้ จึงประกาศคุณทั้งหลายของตน? ตอบว่า พระอริยเจ้าทั้งหลายผู้มีความมักน้อยอย่างยิ่ง ประกาศคุณของตน ด้วย สามารถแห่งการพิจารณาถึงโลกุตรธรรม อันตนไม่เคยได้บรรลุ โดยกาล ยาวนานนี้ ล้ำลึกอย่างยิ่ง สงบ ประณีต เหลือประมาณ อันตนได้บรรลุแล้ว เปล่งอุทาน โดยที่กำลังปีติ กระตุ้นเตือนแล้ว และด้วยสามารถแห่งการยกย่อง คำสอนว่าเป็นนิยยานิกธรรม (นำสัตว์ออกจากภพ) . พระโลกนาถ ประกาศ คุณของพระองค์ ด้วยคำมีอาทิว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคต ผู้ประกอบ ด้วยพลญาณ ๑๐ เป็นผู้แกล้วกล้า เพราะเวสารัชชธรรม ๔ ดังนี้ ด้วย สามารถแห่งพระอัธยาศัยที่เป็นไปเพื่อให้สัตว์ได้บรรลุ (มรรคผล) ฉันใด คาถา พยากรณ์อรหัตตผลของพระเถระนี้ ก็เป็นฉันนั้นเหมือนกัน ฉะนี้แล.

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
อิสระ
วันที่ 12 เม.ย. 2550

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
medulla
วันที่ 14 เม.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ภพฺพาคมโน
วันที่ 8 มิ.ย. 2550

ผู้ที่อวดไม่เห็น ผู้ไม่เห็นไม่อวด

คนที่เห็นนรก สวรรค์ ต้องได้อภิญญา

อภิญญาได้จากการทำฌาน ผู้ทำฌานได้ต้องมีราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง

ผู้มีกิเลสแรงกล้า ถึงกับโอ้อวดตน ไม่น่าจะได้ฌานและอภิญญาจริงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
unknown
วันที่ 9 มิ.ย. 2550

เห็นสภาพธรรมประเสริฐกว่าครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เลยไป
วันที่ 12 มิ.ย. 2550

เป็นกิจของอกุศลเจตสิก

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
พุทธรักษา
วันที่ 12 มิ.ย. 2550

ใครจะว่าไงก็ว่าไป สนใจสภาพจิตตัวเองในขณะนี้ ดีกว่าไหม?

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 30 มิ.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 30 มิ.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 30 มิ.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 30 มิ.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ