การอุทิศบุญ

 
panaporn.a
วันที่  18 เม.ย. 2564
หมายเลข  34082
อ่าน  598

การอุทิศบุญ มีในระไตรปิฎกหรือไม่?

ถ้ามี ขอให้ยกตัวอย่างมาซักเรื่องครับ

และวิธีอุทิศบุญที่ทำให้ถึงแก่ผู้รับต้องทำอย่างไร? ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 เม.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การอุทิศส่วนกุศล เป็นบุญประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้น โดยเมื่อมีการทำบุญประเภทต่างๆ แล้วก็มีจิตคิดให้ผู้อื่นรับรู้บุญที่ได้ทำมา เพื่อให้สัตว์นั้นได้อนุโมทนา ดังนั้น การอุทิศส่วนกุศลจึงเป็นเรื่องของจิต ที่มีเจตนาให้ผู้อื่นรู้ในบุญที่ตนได้กระทำ ครับ

ซึ่งกุศลทุกๆ ประการที่ได้ทำสามารถอุทิศได้ ซึ่งกุศลของผู้ที่ได้ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล ฟังพระธรรม เป็นต้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่กลับมาอีก จึงไม่สามารถจะยกบุญของตนเองไปให้ผู้อื่น เพราะ บุญของใครก็ของคนนั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นปัญหา หากว่า ลืมอุทิศ หลังจากที่เพิ่งได้ทำบุญ ก็สามารถอุทิศภายหลังได้เมื่อนึกขึ้นได้ เพราะ การอุทิศส่วนกุศล ก็เป็นการบอกบุญ ให้ญาติรับรู้ ที่เกิดเป็นเปรตหรือ เทวดา ได้รับรู้ และญาติเกิดจิตอนุโมทนา คือ เกิดกุศลจิตของตนเอง อนุโมทนาในกุศลที่เราได้ทำ ครับ

เพราะฉะนั้น การอนุโมทนาของญาติ ก็ต้องเป็นกุศลของญาติเอง ไม่ใช่ การนำบุญของตนไปให้ญาติ เพราะว่า บุญของเราเองก็เกิดดับไปแล้ว แม้เพิ่งอุทิศเดี๋ยวนั้นบุญที่เราได้ทำก็ดับไปแล้ว จึงไม่มีปัญหาที่จะอุทิศภายหลัง ซึ่งหากมีการอุทิศภายหลังหลายวัน และญาติเกิดจิตอนุโมทนาก็ได้รับส่วนบุญ ส่วนบุญนี้ ไม่ใช่มาจากการยกบุญของเราไปให้ เหมือนสิ่งของที่มอบให้ แต่ส่วนบุญที่ได้รับ อาศัยบุญที่เราได้ทำ ทำให้ญาติเกิดกุศลจิตของตนเอง จึงได้รับส่วนบุญของจิตที่ตนเองทีเกิดกุศลจิต ครับ

ซึ่ง ถ้าเกิดเป็น สัตว์นรก เป็น สัตว์เดรัจฉาน และ มนุษย์ เหล่านี้ ไม่สามารถรับอุทิศส่วนกุศลได้ หากถ้าเกิดเป็น เปรต เป็น โอปปาติกะ คือ ตายแล้วเกิดโตเป็นตัวโตทันทีไม่ได้ผ่านการเกิดในครรภ์ในท้องก่อน เพราะฉะนั้น สัตว์ที่เกิดโตทันทีจึงจำความได้ว่า ชาติก่อนเป็นอะไร ชื่ออะไร เพราะเพียงการสืบต่อของขณะจิตเดียว คือ จุติจิตไปปฏิสนธิจิต และ โต เป็นตัวใหญ่ทันทีรู้เรื่องเลย ต่างกับภพภูมิมนุษย์ที่ต้องเกิดในครรภ์ก่อน ค่อยๆ โต และ เป็นเด็กทารก โดยมาก จึงจำชื่อ เรื่องราวต่างๆ ในชาติก่อนไม่ได้เพราะฉะนั้น หากเกิดเป็นปรตโตทันทีก็จำชื่อของตนเองในชาติก่อนได้ และเมื่อมีญาตอุทิศส่วนกุศลให้ และ รับรู้ ก็เกิดจิตอนุโมทนา เพราะ กล่าวถึงชื่อของตนที่ญาติอุทิศก็ได้รับส่วนกุศลนั้น ครับ ดังข้อความในพระไตรปิฎก ในการอุทิศที่เอ่ยชื่อ ครับ

[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า ๔๒๙

เมื่อบุคคลให้ทาน กระทำการบูชาด้วยของหอมเป็นต้น แล้วให้ส่วนบุญว่าขอส่วนบุญจงมีแก่บุคคลชื่อโน้น หรือว่า ขอส่วนบุญจงมีแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ดังนี้ พึงทราบว่า เป็นบุญกิริยาวัตถุอันเกิดแต่การให้ส่วนบุญ.

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 19 เม.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑หน้า ๔๒๙

ถามว่า ก็เมื่อบุคคลให้อยู่ซึ่งส่วนบุญนี้ บุญย่อมไม่หมดไปหรือ?
ตอบว่า ย่อมไม่หมดไป เหมือนอย่างว่า บุคคลตามประทีปให้โพลงอยู่หนึ่งดวง แล้วก็ยังประทีปหนึ่งพันดวงให้สว่างโพลงได้เพราะประทีปหนึ่งดวงนั้น ใครๆ ไม่พึงพูดได้ว่า ประทีปดวงแรกสิ้นไปแล้ว แต่ว่า แสงสว่างแห่งประทีปดวงหลัง ๆ กับประทีปดวงแรกรวมกัน แล้วก็เป็นแสงสว่างมากยิ่ง ฉันใด เมื่อบุคคลให้อยู่ซึ่งส่วนบุญ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ชื่อว่าบุญทั้งหลายที่จะลดลงไปย่อมไม่มี พึงทราบว่า ย่อมมีแต่เจริญขึ้นเท่านั้น.


[เล่มที่ 58] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ ๓๐๕

(มัจฉทานชาดก)

...พระโพธิสัตว์ได้ให้อาหารที่เหลือแก่ปลาทั้งหลายในแม่น้ำคงคาแล้วให้ส่วนบุญแก่เทวดาประจำแม่น้ำ. เทวดาพออนุโมทนาส่วนบุญเท่านั้นก็เจริญพอกพูนด้วยยศอันเป็นทิพย์ จึงรำพึงถึงความเจริญยศ ของตนก็ได้รู้ถึงเหตุนั้น (คือ การอนุโมทนาส่วนบุญ)


ต้องมีความเข้าใจตั้งแต่ต้นว่า บุญคือขณะจิตที่ดีงาม ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เช่น ในขณะที่ให้ทาน รักษาศีล ฟังพระธรรม เป็นต้น การอุทิศส่วนกุศลให้ใคร จุดประสงค์ก็เพื่อให้ผู้นั้นได้รู้ เพื่อผู้นั้นจะได้เกิดกุศลจิตอนุโมทนา กุศลจิตที่อนุโมทนาย่อมเป็นกุศลของผู้อนุโมทนาเอง ซึ่งกุศลที่เกิดขึ้นด้วยการอนุโมทนานี้จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี คือ กุศลวิบากจิตเกิดขึ้น ไม่ใช่เราหยิบยื่นกุศลของเราให้คนอื่น แต่การที่เราทำกุศล แล้วเป็นเหตุให้คนอื่นที่รู้อนุโมทนายินดีด้วย ขณะใดที่เขาอนุโมทนายินดีด้วย ขณะนั้นก็เป็นกุศลของเขา ซึ่งจะต้องเป็นกุศลจิตของผู้ที่อนุโมทนาเท่านั้นจริงๆ ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 19 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
panaporn.a
วันที่ 19 เม.ย. 2564

ขอขอบคุณ พี่คำปั่น และพี่เผดิม ครับยินดีในกุศลครั้งนี้ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chuchartjam
วันที่ 20 เม.ย. 2564

ขอบคุณอาจารย์คำปั่น และอาจารย์เผดิม ครับยินดีในกุศลครั้งนี้ด้วยครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ