ความสงสัยเป็นธาตุที่ไม่ใช่ใคร และการทำความเข้าใจแม้แต่ลักษณะของจิตที่สงสัย
หนูขอกราบเรียนถามถึงอรรถะและความละเอียดของทั้งสองข้อความนี้ค่ะอาจารย์ กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธาตุ ก็คือ สภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นธรรม ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่สัตว์บุคคล ธาตุจึงเป็นธรรมที่มีจริง คือ จิต เจตสิก รูปและนิพพาน
คำว่าธาตุ ตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ดังนี้ ครับ
สภาพธรรม ที่ชื่อว่า ธาตุ มีหลายความหมายดังนี้ ครับ
- ธาตุ หมายถึง สภาพธรรมที่ทำให้ทุกข์เกิดขึ้น
- ธาตุ หมายถึง สภาพธรรมที่สัตว์ทั้งหลาย ยึดถือไว้
- ธาตุ หมายถึง สภาพธรรมที่ตั้งไว้
- ธาตุ หมายถึง สภาพธรรมที่ทรงไว้ซึ่งทุกข์
- ธาตุ หมายถึง สภาพธรรมที่จัดแจง จัดสรร
- ธาตุ หมายถึง สภาพธรรมที่ไม่เป็นไปตามอำนาจ เพราะเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของสภาพธรรม
- ธาตุ หมายถึง สภาพธรรมที่ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน
- ธาตุ หมายถึง สภาพธรรมที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตน
ความสงสัย วิจิกิจฉา ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นเจตสิก เมื่อมีจริงเป็นธรรม จึงเป็นธาตุและเป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์บุคคล เพราะเป็นแตเ่พียงธาตุหรือธรรมะ ครับ
คำที่ว่า การทำความเข้าใจแม้แต่ลักษณะของจิตที่สงสัย
ไม่มีเราทำความเข้าใจ ไม่มีเราจะไปพยายามรู้ความสงสัย แต่ เมื่อใดปัญญาเกิดรู้ลักษณะของสงสัยที่กำลังเกิดปรากฎว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ขณะนั้นกำลังรู้ความจริง ไม่มีใครไปพยายามทำความเข้าใจ เมื่อไหร่ที่จะพยายามทำความเข้าใจ ไม่ใช่ปัญญาแต่เป็นโลภะ ความต้องการครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริง ทั้งหมด เป็นธรรม เป็นธาตุ ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตน ไม่เปลี่ยนลักษณะเป็นอย่างอื่น เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น แม้ความสงสัย ก็มีจริง จึงเป็นธาตุ ด้วย แต่เป็นธาตุที่ไม่ดี เพราะเป็นอกุศล
ตราบใดที่ยังไม่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคล ความลังเลสงสัยในสภาพธรรม ก็ยังมีอยู่ ความลังเลสงสัย เป็นกิเลสที่กางกั้นไม่ให้กุศลจิตเกิด ขณะที่ความสงสัยเกิดขึ้น ขณะนั้น ตัดสินใจไม่ได้ในเรื่องของสภาพธรรม ความสงสัย ไม่ไช่จิต แต่เกิดประกอบพร้อมกับจิต ทำให้จิตขณะนั้นเป็นอกุศลจิตที่ประกอบด้วยความสงสัย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน
หนทางที่จะเป็นไปเพื่อละคลายความสงสัยรวมไปถึงกิเลสอกุศลธรรมประการต่างๆ ด้วย นั้น คือ การอบรมเจริญปัญญา เพราะขณะที่ฟังพระธรรมเข้าใจ ขณะนั้น ก็เริ่มละคลายความสงสัย เริ่มละคลายความไม่รู้ แล้ว ดังนั้น จะขาดการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวันไม่ได้เลย ครับ
...ยินดีในควาดีของทุกๆ ท่านครับ...