สหชาติทั้ง 7 เหล่า
ขอให้อาจารย์ช่วยอธิบายให้ความละเอียดของสหชาติทั้ง 7 เหล่า ด้วยครับ
สหชาติ ๗ คือ
ต้นโพธิพฤกษ์ ๑
พระมารดาของพระราหุล ๑
ขุมทรัพย์ทั้ง ๔ ขุม ๑
ท่านพระอานนท์ ๑
ม้ากัณฐกะ ๑
นายฉันนะ ๑
ท่านพระกาฬุทายี ๑
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คำว่า สหชาติ หมายถึง เกิดพร้อมกัน จะเห็นได้ว่า สหชาติทั้ง ๗ ประการ ได้แก่
ต้นโพธิพฤกษ์ ๑ พระมารดาของพระราหุล ๑ ขุมทรัพย์ทั้ง ๔ ขุม ๑ ท่านพระอานนท์ ๑ ม้ากัณฐกะ ๑ นายฉันนะ ๑ ท่านพระกาฬุทายี ๑ นั้น เกิดพร้อมกันกับการประสูติ (เกิด) ของพระโพธิสัตว์
-ต้นโพธิพฤกษ์ เป็นต้นไม้ เป็นที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ได้ประทับ ณ บริเวณใต้ต้นโพธิพฤกษ์ แล้วตรัสรู้ถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระบารมีที่พระองค์ได้สะสมอบรมมาถึงความสมบูรณ์พร้อมแล้ว
-พระมารดาพระราหุล คือ พระนางยโสธรา พิมพา พระชายาของสิตถัทธราชกุมาร (พระโพธิสัตว์) ได้สะสมอบรมบารมีมานาน เป็นคู่ชีวิตของพระโพธิสัตว์ก็หลายชาติ ในพระชาติสุดท้าย ได้เป็นพระชายาของพระโพธิสัตว์ เป็นพระมารดาของราหุลกุมาร และในที่สุดได้ออกบวชเป็นภิกษุณี และได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ดับกิเลสทั้งปวงได้หมดสิ้น
-ขุมทรัพย์ ๔ ขุม คือ ขุมทรัพย์ชื่อสังขะ ๑ ชื่อเอละ ๑ ชื่ออุปปละ ๑ ชื่อปุณฑริก ๑ ในบรรดาขุมทรัพย์ทั้ง ๔ นั้น ขุมทรัพย์ชื่อสังขะมีคาวุตหนึ่ง ขุมทรัพย์ชื่อเอละมีครึ่งโยชน์ ขุมทรัพย์ชื่ออุปปละมีสามคาวุต ขุมทรัพย์ชื่อปุณฑริกะมีโยชน์หนึ่ง ทรัพย์ที่ถือเอาๆ แม้ในขุมทรัพย์เหล่านั้น ก็กลับเต็มอีก ทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นเพระบุญกุศลของพระโพธิสัตว์ทั้งหมด
-พระอานนท์ เป็นโอรสในศากยวงศ์ ได้ออกบวชในพระพุทธศาสนา และได้เป็นพุทธอุปัฏฐากของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้เลิศถึง ๕ สถานด้วยกัน กล่าวคือ มีสติ (ระลึกเป็นไปในการศึกษาเล่าเรียน เป็นต้น) มีคติ (แทงตลอดบทแห่งธรรมได้หลายนัย) มีธิติ (ความเพียร) พหูสูต (สดับตรับฟังพระธรรมมาก) และเป็นยอดพุทธอุปัฏฐาก พระอานนท์ ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในวันที่มีการกระทำสังคายนาครั้งแรก ท่านพระอานนท์เป็นผู้ที่ได้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก
-นายฉันนะเป็นอำมาตย์และเป็นสารถีของพระโพธิสัตว์ และในวันที่พระโพธิสัตว์เสด็จออกผนวช นายฉันนะตามเสด็จไปด้วยและนำเครื่องอาภรณ์พร้อมทั้งคำกราบทูลของพระโพธิสัตว์กลับกรุงกบิลพัสดุ์ ภายหลังนายฉันนะได้บวชในพระพุทธศาสนา ได้เกิดความสำคัญตนว่าอยู่ใกล้ชิดพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ว่ายากสอนยาก หลังจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ถูกสงฆ์ลงโทษ จนหายจากความประพฤติที่ไม่เหมาะไม่ควร นั้น และได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ในที่สุด
-ม้ากัณฐกะ เป็นม้าพระที่นั่งของเจ้าชายสิทธัตถะ เป็นม้าที่มีรูปร่างสมส่วน และในวันที่พระโพธิสัตว์เสด็จออกผนวช ก็เป็นม้าที่ส่งเสด็จพระองค์ เมื่อข้ามฝั่งแม่น้ำอโนมาแล้วพระองค์มีรับสั่งให้ม้ากัณฐกะกลับ ทั้งๆ ที่ไม่อยากกลับเลย ด้วยความไม่อยากพลัดพรากจากพระโพธิสัตว์ จนถึงกับหัวใจแตกสลาย เมื่อสิ้นชีวิตแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็น กัณฐกเทวบุตร และในที่สุด เมื่อได้ลงมาเข้าเฝ้าฟังพระธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระโสดาบัน
-พระกาฬุทายี เมื่อครั้งที่ยังเป็นคฤหัสถ์เป็นพระสหายสนิทของเจ้าชายสิทธัตถะ (พระโพธิสัตว์) พระเจ้าสุทโธทนะส่งไปทูลเชิญพระศาสดาเพื่อเสด็จมากรุงกบิลพัสดุ์ อำมาตย์กาฬุทายีไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยบริวาร ที่กรุงราชคฤห์ ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนาได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ ได้อุปสมบทเป็นภิกษุ แล้วทูลเชิญพระศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ พระกาฬุกายีเป็นผู้เลิศในด้านยังตระกูลให้เลื่อมใส ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
สหชาติทั้งเจ็ดก็เป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เป็นธรรม เป็นตัวอย่างของคนที่สะสมบุญบารมี เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมก็บรรลุเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นไม่ควรประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ โดยเฉพาะการอบรมปัญญาด้วยการฟังธรรมเพื่อเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ไม่ใช่เราค่ะ