วิบากจิต
เมื่อเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รู้รส รู้สัมผัส เป็นวิบาก เป็นผลของกรรม ขณะที่คิดนึกไม่ใช่ คืออย่างไร
ขอถามอีกครั้ง ขณะที่คิดนึกนี้สำคัญมากใช่หรือไม่ เพราะถ้าคิดดีก็จะสร้างเหตุดี ถ้าคิดไม่ดีก็จะสร้างเหตุไม่ดีอีก ก็ต้องมีวิบากตามมาอีกตามสภาพความเป็นจริงในประจำวัน เมื่อเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รู้รส รู้สัมผัส การคิดนึกก็เกิดขึ้นแล้วทันที เร็วมาก แม้ยังไม่ทันลืมตาเมื่อตื่นนอน ก็ติดข้องแล้ว สติเจตสิกไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง ทำให้หลง เกิดอวิชชาอยู่ตลอดเวลา การอบรมปัญญาเป็นเหตุให้เกิดสติใช่หรือไม่ แล้วเหตุอะไรที่จะเป็นปัจจัยให้เกิดปัญญาเจตสิก
ถ้ากล่าวโดยวิถีจิตขณะคิดนึกจิตทำกิจชวนะ เป็นกุศล เป็นอกุศล หรือกิริยา ไม่ใช่วิบาก ในพระสุตตปิฎกอังคุตตรนิกายทุกนิบาต แสดงเหตุเกิดสัมมาทิฏฐิ (ปัญญา) มี ๒ ประการ การฟังธรรม ๑ โยนิโสมนสิการ ๑
[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม 36 หน้าที่ 448
๒. ธัมมัสสวนสูตร
ว่าด้วยอานิสงส์แห่งการฟังธรรม ๕ ประการ
[๒๐๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
ผู้ฟังย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ๑
ย่อมเข้าใจชัดสิ่งที่ได้ฟังแล้ว ๑
ย่อมบรรเทาความสงสัยเสียได้ ๑
ย่อมทำความเห็นให้ตรง ๑
จิตของผู้ฟังย่อมเลื่อมใส ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการนี้แล
จบ ธัมมัสสวนสูตรที่ ๒