เทวดาผู้คุ้มครอง
กราบเรียนถามค่ะ
เคยได้ยินเรื่องเทวดาผู้คุ้มครองพระโพธิสัตว์ลืมทำหน้าที่ ทำให้พระโพธิสัตว์เกือบตายเพราะเรือล่ม ขอถามว่าพระโพธิสัตว์เท่านั้นที่มีเทวดาคุ้มครอง หรือว่ามนุษย์ทุกคนก็มีคะ
ขอบพระคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ในหมู่สัตว์โลกที่สมมติขึ้นจากสภาพธรรมที่มีจริงคือ จิต เจตสิก รูปนั้น สัตว์โลกก็มีมากมาย แบ่งเป็นไปตามกรรมและภพภูมิต่างๆ ตามผลของกรรมที่ให้ผลครับ เทวดาก็เป็นภพภูมิหนึ่งเกิดจากผลของกุศลกรรมทีประณีต สำหรับประเด็นเรื่องของเทวดาประจำตัวมีหรือไม่ ก่อนจะพูดถึงเทวดา เรามาพูดถึงชีวิตประจำวันก่อนครับว่า มีคนที่หวังดีกับเราบ้างไหม คอยช่วยเหลือเรา เกื้อกูลเรา เป็นมิตรกับเรา ก็ต้องมีบ้างใช่ไหมครับ คนที่คอยช่วยเหลือเป็นมิตรกับเรา อย่างน้อยก็เป็น บิดา มารดาของเราเองครับจะเรียกว่าท่านเป็นเทวดาที่รักษาเราได้ไหม ประจำตัวเรา หรือเพื่อนที่จริงใจคอยช่วยเหลือก็มีอยู่ จะเรียกว่าเพื่อนนั้นว่าเป็นเทวดาที่รักษาเราได้ไหม อันนี้เป็นการยกตัวอย่างว่าคนที่คอยช่วยเหลือเราในชีวิตประจำวัน คอยรักษาเรามีอยู่ครับ ไม่มากก็น้อย
เมื่อพูดถึงสัจจะความจริงแล้ว การที่เรามีคนที่คอยช่วยเหลือ รักษาคุ้มครองหวังดีกับเรานั้นเพราะอะไร ทุกอย่างจะต้องมีเหตุครับ นั่นคือเพราะกรรมดีของเราเองที่ทำไว้ เมื่อกรรมดีให้ผลก็ย่อมทำให้มีผู้ช่วยเหลือ รักษา ปกป้องคุ้มครองเราให้พ้นจากอันตรายหรือให้ได้รับสิ่งดีๆ เพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เป็นเรื่องของกรรมคือกรรมดีที่ทำไว้นั่นเองครับ ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า บุญเปรียบเหมือนมิตร เพราะว่ามิตรย่อมนำสิ่งดีมาให้เพื่อนฉันใด บุญหรือกรรมดีเมื่อให้ผล ก็ย่อมนำสิ่งดีๆ ต่างๆ ปกป้องคุ้มครองเราให้พ้นจากอันตราย และพบสิ่งที่ดีๆ ครับ กรรมนั่นเองที่จัดสรร
เมื่อพูดถึงเทวดาประจำตัว ที่กล่าวไปแล้วครับที่ได้ยกตัวอย่างว่าในชีวิตประจำวันในโลกมนุษย์ ก็ยังมีคนที่หวังดี คนที่คอยช่วยเหลือเรา เป็นมิตรกับเรา อันเนื่องมาจากกรรมดีที่ทำไว้ทำให้มีคนที่รักษา คุ้มครองเราในโลกมนุษย์ จะเห็นได้ว่าการจะมีคนที่คอยรักษา คุ้มครองก็จะต้องเป็นผลของกรรมดี คือกรรมดีที่ทำไว้ ซึ่งในโลกมนุษย์นี้คนที่ทำดี เป็นผู้สะสมบุญมามากก็มีอยู่ ผลของบุญนั้นก็ต้องมีเทวดาที่รักษา คุ้มครองบุคคลนั้น อันเกิดจากผลของบุญของบุคคลนั้นที่ทำไว้ครับ แต่ถามว่าจะต้องมีเทวดาประจำตัวที่คอย ปกป้องรักษา คุ้มครองหรือไม่ คงไม่เช่นนั้นครับ เพราะต้องเป็นบุคคลที่สะสมบุญมามากจึงจะมีเทวดาที่คอยรักษาคุ้มครอง เพราะเทวดาเขาก็มีกิจมาก มีการเล่นเป็นส่วนมาก ดังนั้น ผู้ที่จะมีการรักษาคุ้มครองจากเทวดาจะต้องเป็นผู้มีบุญ ขอยกตัวอย่างดังเช่น พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติท่านก็มีเทวดารักษาคุ้มครอง ดังเช่นเรื่องพระมหาชนก ก็มีนางมณีเมขลา ผู้เป็นเทวดาคอยช่วยเหลือ ปกป้องคุ้มครองเป็นประจำกับตัวพระโพธิสัตว์ หรือเรื่องสังขพราหมณ์ พระโพธิสัตว์ก็มีเทวดาคอยรักษาคุ้มครองจะเห็นได้ว่าต้องเป็นผลของบุญและเป็นผู้มีบุญมากจึงจะมีเทวดารักษา เพราะถ้าไม่มีบุญจะมีเทวดาหรือบุคคลใดรักษาไม้่ได้เลยครับ จึงเป็นเรื่องของกรรมดีที่ทำไว้นั่นเอง
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...
พระโพธิสัตว์มีเทวดาคอยรักษา [สังขพราหมณจริยา]
ดังนั้น เทวดาประจำตัวที่คอยรักษาบุคคลใด บุคคลหนึ่งมีอยู่ ดังเช่นที่ผมเปรียบเทียบว่าแม้ในโลกนี้ก็มีคนที่คอยช่วยเหลือก็มีอยู่ อันเกิดจากกรรมดีทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเทวดาประตัวรักษา เพราะไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องมีบุญมาก ผู้ที่สะสมบุญมามากเท่านั้นจึงจะมีคนที่คอยรักษาเพราะบุญของบุคคลนั้นทำมา ดังเช่นพระโพธิสัตว์ บุญไม่สาธารณะกับทุกคนที่ไมได้สะสมอุปนิสัยหรือความดีมา เพราะฉะนั้นการมีคนรักษา มีเทวดาปกป้องคุ้มครองก็ไม่สาธารณะกับทุกคนเช่นกันครับ ทุกอย่างจึงเป็นเรื่องของกรรมและผลของกรรมจริงๆ ครับ ในการที่จะมีการรักษา ไม่มีการรักษาบุคคลนั้นครับ
ดังนั้นเทวดาประจำตัวจึงไม่ใช่มีทุกคนที่จะมาปกป้องรักษา เพราะเทวดาก็ย่อมรักษาคนที่มีคุณธรรมสูง เป็นคนดีมีพระโพธิสัตว์ เป็นต้น ที่สำคัญเป็นเรื่องของกรรมทั้งสิ้น
แต่ข้อคิดที่สำคัญคือว่าหากเรามั่นคงในสัจจะแล้ว ไม่มีใครรักษาเราได้นอกจากกรรมของเราเอง เมื่อมีเหตุปัจจัย แม้มีเทวดาคอยรักษาอยู่ เทวดานั้นก็หลงลืมที่จะไม่ได้ปกป้องรักษาได้ เพราะอะไร เพราะกรรมไม่ดีให้ผลนั่นเอง ดังเช่น สังขพราหมณ์เรือแตก ตกทะเล ท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ ให้นางมณีเมกขลาที่ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ตั้งไว้ให้ดูแล แต่ ๗ วันนั้นหลงลืมไมได้ดูพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์จึงต้องว่ายน้ำอยู่ในทะเล ๗ วัน นี่แสดงให้เห็นว่าหากกรรมไม่ดีให้ผลใครก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่เมื่อกรรมดีให้ผล ก็มีสิ่งต่างๆ คอยช่วยเหลือครับ ดังนั้น พุทธบริษัทจึงต้องมั่นคงในเรื่องของกรรมไม่มีใครทำร้ายหรือรักษาเราได้นอกจากบุญและบาปที่เป็นกรรมที่เราทำเองครับ จึงไม่ควรประมาทในอกุศลแม้เพียงเล็กน้อยและเจริญกุศลทุกๆ ประการ อบรมปัญญาครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประโยชน์อยู่ที่ความเข้าใจพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของคำสอน ย่อมเป็นเครื่องเตือนที่ดี เพื่อให้ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจถูก เห็นถูก มีความประพฤติที่ดีงามทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ จนกระทั่งสูงสุด เพื่อความเป็นผู้หมดจดจากกิเลส สิ่งที่ควรรู้ความศึกษาที่สุด คือ พระธรรม จะเห็นได้ว่าตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ การเวียนว่ายตายเกิด ย่อมมีอยู่ตราบนั้น ไม่เป็นสุคติภูมิ ก็เป็นทุคติภูมิ ตามกรรม
การเกิดในภพหนึ่งชาติหนึ่งนั้น ไม่ยั่งยืนเลย สั้นมาก เป็นที่พักชั่วคราว พักแล้วก็ต้องเดินทางต่อไปอีกในสังสารวัฏฏ์ ดังนั้น เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ควรอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท พร้อมทั้งประพฤติธรรม มีกุศลกรรมบถ ๑๐ เป็นต้น เพราะภูมิมนุษย์ เป็นภูมิที่เอื้ออำนวยให้สามารถเจริญกุศลได้ทุกๆ ประการ ทั้งในเรื่องของการให้ทาน รักษาศีล การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น การอ่อนน้อมถ่อมตน การฟังพระธรรมอบรมเจริญปัญญา เป็นต้น เพราะถ้าเทียบกันระหว่างกุศลกับอกุศลแล้ว กุศลย่อมดีกว่าอกุศล กุศล กุศล คุณความดีทั้งปวง ย่อมนำมาซึ่งความแช่มชื่นแห่งจิต ไม่นำมาซึ่งความเดือดร้อน เป็นที่พึ่งได้จริงๆ ที่ได้รับสิ่งที่ดี น่าใคร่น่าพอใจในชีวิตประจำวัน ตลอดจนถึงมีผู้ช่วยเหลือเกื้อกูล ก็เป็นเพราะได้กระทำเหตุที่ดี คือ กุศลกรรมไว้ นั่นเอง ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...