เพราะมีเมตตาจึงไม่ทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่น
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๔๗๖]
เพราะมีเมตตาจึงไม่ทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่น
สำหรับศีลจะสำเร็จได้ก็ด้วยการมีเมตตา คือขณะนั้นเป็นอโทสะ ไม่ประกอบด้วยโทสะ เช่น ในข้อของปาณาติบาตการฆ่าสัตว์ที่มีชีวิต ถ้าขณะนั้นเกิดเมตตา ฆ่าได้ไหม? ก็ไม่ได้ใช่ไหม? หรือแม้แต่การที่จะเบียดเบียนประทุษร้ายด้วยกายหรือด้วยวาจาก็ตาม ถ้าเกิดเมตตาขึ้นทันทีในขณะนั้น ย่อมวิรัติ (งดเว้น) การที่จะเบียดเบียนประทุษร้ายด้วยกายด้วยวาจา แต่ถ้าขณะนั้นเมตตาไม่เกิด อโทสะไม่เกิด ก็ย่อมเป็นไปตามกำลังของกิเลส
แม้ในข้อของอทินนาทาน คือการถือเอาวัตถุที่เจ้าของไม่ให้ ก็เช่นเดียวกัน ถ้าท่านเป็นผู้มีเมตตาในบุคคลผู้เป็นเจ้าของ รู้ว่าเขาจะต้องเสียใจเสียดายในการที่จะสูญเสียวัตถุที่เป็นประโยชน์ของเขาไป ถ้าท่านมีจิตเมตตาในขณะนั้น ท่านย่อมไม่สามารถที่จะถือเอาของที่เจ้าของไม่ได้ให้
กาเมสุมิจฉาจาร (การประพฤติผิดในกาม) ก็เช่นเดียวกัน ย่อมทำความเดือดร้อนให้กับวงศาคณาญาติของผู้ที่ท่านกระทำทุจริตกรรม เพราะฉะนั้นถ้าขณะนั้นมีเมตตาคิดถึงบุคคลอื่น ไม่ต้องการให้บุคคลอื่นเดือดร้อนท่านก็จะละการล่วงทุจริตกรรมข้อนี้ด้วย
แม้ข้อของมุสาก็เช่นเดียวกัน การที่ท่านพูดไม่จริงเป็นการเบียดเบียนคนอื่น ไม่ให้คนอื่นได้รู้เรื่องจริง ไม่ให้คนอื่นได้รู้ความจริง ความโกรธ ความประทุษร้าย ไม่เมตตาต่อผู้อื่นจึงกล่าวมุสาได้
แม้การดื่มสุราก็เช่นเดียวกัน เวลาที่ดื่มสุราแล้วขาดสติ หลงลืมสติอย่างมาก และผู้ที่ดื่มสุราก็เป็นผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ เมื่อมีสุราเป็นเชื้อเป็นปัจจัยให้กิเลสเหล่านั้นเกิดมีกำลังกล้าขึ้น ย่อมจะสามารถทำทุจริตกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นการเบียดเบียนบุคคลอื่นให้เดือดร้อนได้
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย