จิต เจตสิก รูป นิพพาน ของแต่ละคน
แต่ละคน เหมือนมีรายละเอียดเล็กๆมากๆที่แตกต่างกัน เช่น dna
- dna น่าจะถือว่าเป็นรูปเฉพาะตัวของแต่ละคนหรือเปล่าครับ
- ถ้าเป็น รูปของคนแต่ละคน มีกลาปแตกต่างกันด้วยไหมครับ
และจิต เจตสิก หรืออาจจะรวม นิพพานด้วย ของแต่ละคนจะแตกต่างกันกันคล้ายรูปไหมครับ
ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การศึกษาธรรมที่ถูกต้องคือไม่เอาศาสตร์อื่น วิชาอื่นแล้วมาเปรียบเทียบเพราะจะทำให้เข้าใจสัจจะความจริงผิด เพราะฉะนั้นการเข้าใจที่ถูกต้อง จึงกลับมาที่พระพุทธศาสนาเท่านั้นที่แสดงสัจจะะความจริงว่ามีแต่ธรรมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม จิต เจตสิก รูป นิพพาน
ซึ่งเมื่อกล่าวถึงรูป คือ สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร รูปนั้นก็มีความละเอียด ประณีตแตกต่างกัน รูปที่ดี รูปที่ไม่ดี พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติว่า มีรูปที่หยาบ ละเอียด เลว ประณีต ไกล ใกล้ เป็นต้น ครับ และเมื่อว่าโดยกลาปของแต่ละรูป ก็ตามประเภทของกลาป ทำให้มีความไม่เท่ากันในแต่ละกลาป ครับ
ส่วนธรรมที่เป็น จิต เจตสิก นิพพาน ก็ตามประเภทของจิต จิตเห็นของพระอรหันต์กับจิตเห็นของปุถุชน ก็เหมือนกัน คือ ทำหน้าที่เห็น จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะเฉพาะตัวได้ เจตสิกและนิพพาน ไม่เปลี่ยนลักษณะ เป็นต้น ครับ ขออนุโททนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ควรที่จะได้เข้าใจตั้งแต่ต้น ว่า
จิต คือ อะไร? จิต เป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ (อารมณ์คือสิ่งที่จิตรู้) ทุกขณะไม่เคยขาดจิตเลย เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทางกาย คิดนึก เป็นต้น
เจตสิก คืออะไร? เจตสิก เป็นสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม ที่เกิดประกอบพร้อมกับจิต ดับพร้อมกับจิต รู้อารมณ์เดียวกันกับจิต และในภูมิที่มีขันธ์ ๕ (มีทั้งนามธรรมและรูปธรรม) เจตสิกก็อาศัยที่เกิดที่เดียวกันกับจิต ด้วย ตัวอย่างของเจตสิก เช่น ผัสสะ สภาพที่กระทบอารมณ์ เวทนา ความรู้สึก สัญญา ความจำ เป็นต้น
รูป คืออะไร? รูป เป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร ไม่ใช่สภาพรู้ รูปมีทั้งหมด มี ๒๘ รูป และ ในมนุษย์แต่ละคน ที่ไม่ตาบอด ไม่หูหนวก ก็มีคนละ ๒๗ รูป ตัวอย่างของรูป เช่น สี เสียง กลิ่น รส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึงไหว ตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นต้น
นิพพาน คืออะไร? นิพพาน เป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ แต่มีจริงๆ เป็นนามธรรม ที่ไม่รู้อารมณ์
แต่ละชีวิต ก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก และรูป ส่วนพระนิพพาน ไม่เกิดไม่ดับ แต่มีจริงๆ มีลักษณะที่สงบจากกิเลส ไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม แต่ผู้ที่ประจักษ์แจ้งพระนิพพาน ต้องเป็นพระอริยบุคคลเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่ดำเนินหนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา ไม่มีทางที่ปัญญาจะเจริญขึ้นไปตามลำดับจนถึงการประจักษ์แจ้งพระนิพพานได้เลย ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...