บุญไม่ได้อยู่ที่วัตถุ แต่อยู่ที่สภาพจิตที่เป็นกุศล
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๔๘๔]
บุญไม่ได้อยู่ที่วัตถุ แต่อยู่ที่สภาพจิตที่เป็นกุศล
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ให้ความรู้ความเข้าใจในทุกสิ่งทุกอย่างตรงตามเหตุตามผล จะไม่ทำให้ผู้ที่ศึกษาเข้าใจผิดคลาดเคลื่อน แต่ผู้ใดที่ไม่ศึกษาจะเข้าใจคำที่ใช้ในพระพุทธศาสนาคลาดเคลื่อน เช่น คำว่า “บุญ” คิดว่าเป็นเรื่องของวัตถุสิ่งของ ถ้าให้วัตถุสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากๆ ก็เข้าใจว่าขณะนั้นได้บุญมาก โดยที่ไม่ทราบเลยว่าแท้ที่จริงแล้วบุญไม่ได้อยู่ที่วัตถุ แต่อยู่ที่สภาพจิตที่เป็นกุศลในขณะนั้นซึ่งปราศจากโลภะ ปราศจากโทสะ ปราศจากโมหะ ปราศจากอกุศล
เพราะฉะนั้นผู้ที่มีปัญญาก็สามารถที่จะรู้จิตใจของตนเองได้ว่า ในขณะที่ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ในขณะนั้นไม่ได้มุ่งหวังสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นการตอบแทน ไม่ต้องมานั่งคิดนั่งชั่งว่าบุญนี้จะมากหรือว่าจะน้อย หรือว่าจะเป็นบุญหรือว่าไม่ใช่บุญ แต่ว่าสิ่งใดก็ตามที่เป็นประโยชน์ และก็มีจิตกุศลที่เป็นจิตที่ดีงามเกิดขึ้น สามารถที่จะกระทำสิ่งนั้นๆ โดยไม่ได้มุ่งหวังสิ่งใด แล้วก็ยังรู้ด้วยว่า ขณะนั้นเป็นการกระทำที่ดีที่ควร อย่างเช่นรู้ว่า การฆ่า การเบียดเบียน การประทุษร้ายเป็นสิ่งที่ไม่ดีเป็นอกุศล ถ้าเข้าใจอย่างนี้ก็เป็นปัญญาขั้นหนึ่ง ไม่ใช่ว่ารู้ผิดหรือเข้าใจผิด แต่สามารถที่จะรู้อกุศลว่าเป็นอกุศล และรู้ว่ากุศลเป็นกุศล แต่ว่าไม่ควรที่จะชั่งหรือว่ามุ่งหวังที่จะได้รับผลของบุญ เพราะเหตุว่าในขณะนั้นเป็นโลภะ เป็นการติดข้องในผลของบุญนั่นเอง
สำหรับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีเพื่อละอกุศลธรรมทั้งหมดเป็นสมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด) ถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งประกอบด้วยพระญาณต่างๆ ที่สามารถจะเกื้อกูลอนุเคราะห์สัตว์โลก ด้วยการทรงแสดงธรรมให้ผู้ฟังสามารถที่จะประพฤติปฏิบัติตาม จนกระทั่งดับกิเลสได้หมดสิ้นเช่นเดียวกับพระองค์
เพราะฉะนั้นการที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดทำกุศลด้วยปัญญา รู้ว่าสิ่งใดเป็นโทษ สิ่งใดเป็นอกุศล คิดที่จะละ ขณะนั้นไม่ใช่เป็นการกระทำบุญกุศลด้วยความหวังที่เป็นโลภะ
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย