ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๑๗
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๑๗ * *
~ ถ้าไม่มีใครเข้าใจเลย พระพุทธศาสนาจะดำรงอยู่ได้ไหม? เพราะพระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อไม่มีใครเข้าใจ ก็คือ หมด อันตรธาน (สูญสิ้น) เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ไม่เข้าใจคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมก็อันตรธานจากคนนั้นเลย ไม่มีเหลือ แต่ถ้าความเข้าใจยังอยู่ ก็คือ พระพุทธศาสนา ยังดำรงอยู่
~ ผู้ที่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าใกล้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เป็นอุบาสกอุบาสิกา มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง คือ เรารู้ว่าอย่างอื่นพึ่งไม่ได้ วิชาการทั้งหลาย เรียนมามากมายสักเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว ทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ว่า ถ้ามีความรู้ความเข้าใจธรรมที่ถูกต้องตามความเป็นจริง ทุกอย่างที่ไม่ดี ก็จะลดน้อยลง เพราะรู้ว่า เหตุไม่ดี ต้องนำมาซึ่งผลที่ไม่ดี แล้วใครจะอยากได้ผลที่ไม่ดี?
~ สิ่งที่จะติดตามไปที่มีประโยชน์ที่สุด ก็คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ไม่ว่าจะเกิดชาติไหนที่ไหน ก็มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา จนกว่าจะหมดกิเลส
~ พ่อแม่ป่วยไข้ ลูกขอป่วยแทน ยังไม่ได้ ลูกเจ็บหนัก พ่อแม่ขอแบ่งเบา ยังไม่ได้ เห็นไหมว่าไม่มีใครทำอะไรกับใครได้เลยทั้งสิ้น เพราะเป็นธรรมที่จะต้องเป็นไป ไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ เกิดแล้วไม่ให้ดับ ก็ไม่ได้
~ ปัญญาจะนำไปในกิจทั้งปวงที่ดี ปัญญา ไม่ทำให้ฆ่าใครโกรธใครเกลียดใคร เพราะปัญญารู้ว่า ขณะที่โกรธ เกลียด นั้น อกุศลเกิดแล้วที่ตัวเอง บุคคลที่เราโกรธ เขาก็สบายดี เพราะฉะนั้น อกุศลที่เกิดกับเรานี่แหละที่จะให้ผลกับเรา เป็นโทษกับเรา เพราะฉะนั้น เมื่อรู้อย่างนี้ ก็มีความเป็นมิตรมากกว่าที่จะโกรธ
~ เพื่อนคือขณะที่หวังดี พร้อมที่จะทำประโยชน์เกื้อกูล นั่นคือ เพื่อนหรือมิตร เพราะฉะนั้น มิตรจะไม่หวังร้าย จะไม่โกรธ จะไม่เกลียด จะไม่ทำร้ายใครเลย
~ ละคลายความไม่ดีของตัวเอง คือ ความไม่รู้ของเราซึ่งคนอื่นละให้ไม่ได้ แล้วถ้าไม่คิดที่จะละก็สะสมเพิ่มพูนจนกระทั่งปรากฏอย่างที่เราเห็น ช่างร้ายเหลือเกินเวลาที่เห็นการกระทำ (ที่ไม่ดี) ของใครคนหนึ่ง แต่ถ้าตัวเองทำเอง ไม่เห็นเลย และกำลังสะสมที่จะทำด้วย วันหนึ่งใครจะรู้
~ มิตรที่ดี เขาไม่นำอกุศลมาให้ และคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ควรที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจด้วย นี่คือ มิตรจริงๆ เพราะมีความหวังดีจริงๆ ให้อย่างอื่นกับให้ความเข้าใจธรรม (ลองเทียบกันดู) สิ่งอื่นซึ่งให้มามากล้นเหลือมหาศาล เหลือไหม? แต่ความจริง ยังไม่ทันตายก็ไม่เหลือแล้ว ก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้น ความไม่รู้ มาก สมควรอย่างยิ่งที่จะขจัดออกเท่าที่สามารถจะเป็นไปได้ ด้วยปัญญาที่เข้าใจถูก ซึ่งนำไปสู่คุณความดีทั้งหมด ไม่ได้เป็นอกุศลเลย
~ พระมหากรุณาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ทรงเว้นใครเลย แม้ว่าเขาจะอยู่แสนไกลสักเท่าไหร่ แต่ถ้าสามารถจะเห็นถูกได้ ในสังสารวัฏฏ์ คิดดู ที่จะเป็นประโยชน์ต่อไป พระองค์ก็เสด็จไปอนุเคราะห์ ตลอดชีวิต กัลยาณมิตรสูงสุดไม่มีใครเทียบได้เลย
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงนำโทษแม้เพียงเล็กน้อยให้ใครเลยทั้งสิ้น มีแต่ประโยชน์ เพราะฉะนั้น เวลาที่มีความเข้าใจธรรมแล้ว จึงเห็นพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ต้องมั่นคง จุดมุ่งหมายในชีวิตคือเข้าใจชีวิต และเมื่อเข้าใจแล้ว ปัญญาก็จะประพฤติตามที่ได้เข้าใจในทางที่ถูกต้อง เพราะปัญญาเห็นถูก ไม่เคยเห็นผิด ไม่ได้นำไปในทางที่ผิดเลย
~ พุทธบริษัทที่จะรุ่งเรืองในพระธรรม ก็คือ ไม่ขาดการที่จะพบปะสนทนาธรรมเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น เป็นมงคล นำมาซึ่งความเจริญในความเป็นจริงที่ถูกต้อง
~ ความดี ไม่ได้นำความทุกข์มาให้
~ ฟังคำที่กล่าวถึงความจริง พิจารณาจนกระทั่งเป็นความเข้าใจถูก เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในชีวิต ยิ่งกว่าอย่างอื่นหรือเปล่า? ประโยชน์สูงสุด จุดมุ่งหมาย คือ เพื่อความเข้าใจถูก และก็กำลังมีสิ่งที่จะให้เข้าใจด้วย คือ เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลย ถ้าละเลยโอกาสแม้เพียงนิดเดียวก็พลาดโอกาสที่จะสะสมความเห็นถูกแม้เพียงเล็กน้อยซึ่งจะทำให้เห็นถูกขึ้นๆ จนกว่าจะมีกำลังที่สามารถที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงประจักษ์แจ้งแล้วทรงแสดงให้รู้ ว่า ไม่ใช่รู้อย่างอื่น แต่รู้สิ่งที่มีเดี๋ยวนี้เอง
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรม ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ผู้หนึ่งผู้ใดสาขาอาชีพใด แต่สำหรับทุกคนที่มีชีวิตที่สามารถที่จะเข้าใจได้ เพื่อให้เกิดความเห็นถูก ซึ่งไม่สามารถที่จะเห็นถูกได้ด้วยตัวเอง
~ กล้าพูดสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ ควรทำไหม?
~ ถ้าเป็นคนเก่ง แต่ไม่ดี ทุจริตไหม? ทุจริต ไม่ได้ทำประโยชน์เลย เสียประโยชน์ ทุจริต ทำประโยชน์ได้อย่างไร นอกจากเสียประโยชน์
~ ถ้าเป็นคนไม่ดี มีหรือที่จะทำเพื่อคนอื่น
~ ทำไมไม่คิด ว่า การกระทำที่ดี ไม่เป็นโทษกับใคร มีแต่จะนำความสุขไปให้ แต่คนเก่ง แต่เป็นคนที่ไม่ดี นำโทษมาให้มหาศาลแค่ไหน แล้วแต่กำลังของกิเลสซึ่งไม่มีวันพอ เป็นโทษทั้งกับตนเองและเป็นโทษต่อบุคคลอื่นด้วย
~ ถ้าคนในโลกนี้หรือประเทศไทยหรือที่ไหนก็ตามแต่ ไม่ต้องการที่จะรู้ความจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีประโยชน์สำหรับเขา
~ เป็นคนเก่ง กับ เป็นคนดี อะไรยากกว่ากัน? เพราะฉะนั้น ดีถึงที่สุด คือ ไม่ใช่ดีเพียงแค่ให้ทาน รักษาศีล แต่ต้องเป็นความเข้าใจถูกต้องตามพระธรรมวินัย ตามความเป็นจริง
~ ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เต็มไปด้วยความโลภ สบายใจไหม เท่าไหร่ก็ไม่พอ ยิ่งถึงกับทำทุจริต เป็นอย่างไร ดีหรือ? สบายใจหรือ? เป็นประโยชน์หรือ? ไม่ได้คิดอะไรเลยทั้งสิ้น เพราะเหตุว่า ไม่รู้ เพราะฉะนั้น เมื่อมีความเข้าใจในความไม่รู้ของคนอื่น แล้วเห็นใจ นี่คือ เมตตา ประโยชน์ คือ อยากให้เขาได้เข้าใจถูกต้อง เมื่อมีโอกาสที่จะช่วยได้ ไม่เว้นเลย ไม่ว่าเขาเป็นใคร มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ก็ทำอย่างนี้ ไม่ได้เลือกฝ่ายหรืออะไรเลยทั้งสิ้น
~ ไม่รู้จักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ศึกษา ไม่มีเวลา หมายความว่าอย่างไร? อย่างอื่นสำคัญกว่า มีเวลาสำหรับอย่างอื่น แต่การที่จะได้ฟังพระธรรมแม้เพียงฟังยังไม่มีเวลา แล้วจะเป็นคนที่เข้าใจธรรมได้ไหม? เมื่อไม่เข้าใจธรรม แล้วเป็นชาวพุทธหรือเปล่า?
* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๑๖
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...