ทัณฑวรรค ที่ ๑๐ ว่าด้วยอาชญามีผล
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 66
ทัณฑวรรค ที่ ๑๐
ว่าด้วยอาชญามีผล
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 42]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 66
คาถาธรรมบท
ทัณฑวรรค (๑) ที่ ๑๐
ว่าด้วยอาชญามีผล
[๒๐] ๑. สัตว์ทั้งหมด ย่อมหวาดหวั่นต่ออาชญา สัตว์ทั้งหมดย่อมกลัวต่อความตาย บุคคลทำตนให้เป็นอุปมาแล้ว ไม่ควรฆ่าเอง ไม่ควรใช้ผู้อื่นให้ฆ่า.
๒. สัตว์ทั้งหมด ย่อมหวาดหวั่นต่ออาชญา ชีวิตย่อมเป็นที่รักของสัตว์ทั้งหมด บุคคลควรทำตนให้เป็นอุปมาแล้ว ไม่ควรฆ่าเอง ไม่ควรใช้ให้ฆ่า.
๓. สัตว์ผู้เกิดแล้วทั้งหลาย เป็นผู้ใคร่สุข บุคคลใดแสวงหาสุขเพื่อตน แต่เบียดเบียนสัตว์อื่นด้วยท่อนไม้ บุคคลนั้นละไปแล้วย่อมไม่ได้สุข สัตว์ผู้เกิดแล้วทั้งหลายเป็นผู้ใคร่สุข บุคคลใดแสวงหาสุขเพื่อตน ไม่เบียดเบียน (ผู้อื่น) ด้วยท่อนไม้ บุคคลนั้นละไปแล้ว ย่อมได้สุข.
๔. เธออย่าได้กล่าวคำหยาบกะใครๆ ชนเหล่าอื่นถูกเธอว่าแล้ว จะพึงว่าตอบเธอ.
๕. นายโคบาล ย่อมต้อนโคทั้งหลายไปสู่ที่หากิน ด้วยท่อนไม้ฉันใด ชราและมัจจุย่อมต้อนอายุ ของสัตว์ทั้งหลายไปฉันนั้น.
๑. วรรคที่ ๑๐ มีอรรถกถา ๑๑ เรื่อง.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 67
๖. อันคนพาล ทำกรรมทั้งหลายอันลามกอยู่ ย่อมไม่รู้ (สึก) บุคคลผู้มีปัญญาทราม ย่อมเดือดร้อน ดุจถูกไฟไหม้ เพราะกรรมของตนเอง.
๗. ผู้ใด ประทุษร้ายในท่านผู้ไม่ประทุษร้ายทั้งหลาย ผู้ไม่มีอาชญาด้วยอาชญา ย่อมถึงฐานะ ๑๐ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งพลันทีเดียว คือ ถึงเวทนากล้า ๑ ความเสื่อมทรัพย์ ๑ ความสลายแห่งสรีระ ๑ อาพาธหนัก ๑ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ๑ ความขัดข้องแต่พระราชา ๑ การถูกกล่าวตู่อย่างร้ายแรง ๑ ความย่อยยับแห่งเครือญาติ ๑ ความเสียหายแห่งโภคะทั้งหลาย ๑ อีกอย่างหนึ่ง ไฟป่าย่อมไหม้เรือนของเขา ๑ ผู้นั้นมีปัญญาทราม เพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงนรก.
๘. การประพฤติเป็นคนเปลือย ก็ทำสัตว์ให้บริสุทธิ์ไม่ได้ การเกล้าชฎาก็ไม่ได้ การนอนเหนือเปือกตมก็ไม่ได้ การไม่กินข้าวก็ดี การนอนบนแผ่นดินก็ดี ความเป็นผู้มีกายหมักหมมด้วยธุลีก็ดี ความเพียรด้วยการนั่งกระหย่งก็ดี (แต่ละอย่าง) หาทำ สัตว์ผู้ยังไม่ล่วงสงสัยให้บริสุทธิ์ได้ไม่.
๙. แม้ถ้าบุคคลประดับแล้ว พึงประพฤติสม่ำเสมอ เป็นผู้สงบ ฝึกแล้ว เที่ยงธรรม มีปกติประ-
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 68
พฤติประเสริฐ วางเสียซึ่งอาชญาในสัตว์ทุกจำพวก บุคคลนั้นเป็นพราหมณ์ เป็นสมณะ เป็นภิกษุ.
๑๐. บุรุษผู้ห้ามอกุศลวิตก ด้วยหิริได้ น้อยคนจะมีในโลก บุคคลใดกำจัดความหลับ ตื่นอยู่ เหมือนม้าดีหลบแส้ไม่ให้ถูกตน บุคคลนั้นหาได้ยาก ท่านทั้งหลายจงมีความเพียร มีความสลดใจ เหมือนม้าดี ถูกเขาตีด้วยแส้แล้ว (มีความบากบั่น) ฉะนั้น ท่านทั้งหลายเป็นผู้ประกอบด้วยศรัทธา ศีล วิริยะ สมาธิ และด้วยคุณเครื่องวินิจฉัยธรรม มีวิชชาและจรณะถึงพร้อม มีสติมั่นคง จักละทุกข์อันมีประมาณไม่ น้อยนี้ได้.
๑๑. อันคนไขน้ำทั้งหลาย ย่อมไขน้ำ ช่างศรทั้งหลาย ย่อมดัดศร ช่างถากทั้งหลาย ย่อมถากไม้ ผู้สอนง่ายทั้งหลาย ย่อมฝึกตน.
จบทัณฑวรรคที่ ๑๐