โลกวรรค ที่ ๑๓ ว่าด้วยเรื่องโลก
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 227
โลกวรรค ที่ ๑๓
ว่าด้วยเรื่องโลก
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 42]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 227
คาถาธรรมบท
โลกวรรค (๑) ที่ ๑๓
ว่าด้วยเรื่องโลก
[๒๓] ๑. บุคคลไม่พึงเสพธรรมอันเลว ไม่พึงอยู่ร่วม ด้วยความประมาท ไม่พึงเสพความเห็นผิด ไม่พึงเป็นคนรกโลก.
๒. บรรพชิตไม่พึงประมาทในก้อนข้าว อันตนพึงลุกขึ้นยืนรับ บุคคลพึงประพฤติธรรมให้สุจริต ผู้มีปกติประพฤติธรรม ย่อมอยู่เป็นสุขในโลกนี้และโลกหน้า, บุคคลพึงประพฤติธรรมให้สุจริต ไม่พึงประพฤติธรรมนั้นให้ทุจริต ผู้มีปกติประพฤติธรรม ย่อมอยู่เป็นสุขในโลกนี้และโลกหน้า.
๓. พระยามัจจุ ย่อมไม่เห็นบุคคลผู้พิจารณา เห็นอยู่ซึ่งโลก เหมือนบุคคลพึงเห็นฟองน้ำ (และ) เหมือนบุคคลพึงเห็นพยับแดด.
๔. ท่านทั้งหลายจงดูโลกนี้ อันตระการดุจราชรถ ที่พวกคนเขลาหมกอยู่ (แต่) พวกผู้รู้หาข้องอยู่ไม่.
๕. ผู้ใดประมาทในก่อน ภายหลังไม่ประมาท ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่างได้ เหมือนดวงจันทร์พ้น จากหมอกฉะนั้น.
๖. บุคคลใดละบาปกรรมที่ตนทำไว้แล้วได้ด้วย
๑. วรรคนี้ มีอรรถกถา ๑๐ เรื่อง.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 228
กุศล บุคคลนั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนดวงจันทร์พ้นแล้วจากหมอกฉะนั้น.
๗. สัตว์โลกนี้เป็นเหมือนคนบอด ในโลกนี้น้อยคนนักจะเห็นแจ้ง น้อยคนนักจะไปในสวรรค์ เหมือน นกหลุดแล้วจากข่าย (มีน้อย) ฉะนั้น.
๘. หงส์ทั้งหลาย ย่อมไปในทางแห่งดวงอาทิตย์ ท่านผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายย่อมไปในอากาศด้วยฤทธิ์ ธีรชน ชนะมารพร้อมทั้งพาหนะแล้ว ย่อมออกไปจากโลกได้.
๙. บาปอันชนผู้ก้าวล่วงธรรมอย่างเอกเสีย ผู้มักพูดเท็จ ผู้มีปรโลกอันล่วงเลยเสียแล้ว ไม่พึงทำ ย่อมไม่มี.
๑๐. พวกคนตระหนี่ จะไปสู่เทวโลกไม่ได้เลย พวกชนพาลแล ย่อมไม่สรรเสริญทาน ส่วนนักปราชญ์อนุโมทนาทานอยู่ เพราะเหตุนั้นนั่นแล นักปราชญ์นั้นจึงเป็นผู้มีสุขในโลกหน้า.
๑๑. โสดาปัตติผลประเสริฐกว่าความเป็นเอกราชในแผ่นดิน กว่าการไปสู่สวรรค์ และกว่าความเป็นใหญ่ในโลกทั้งปวง.
จบโลกวรรคที่ ๑๓