พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๙. เรื่องพระเถระชื่อเอกวิหารี [๒๒๒]

 
บ้านธัมมะ
วันที่  26 ก.ค. 2564
หมายเลข  35025
อ่าน  412

[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 190

๙. เรื่องพระเถระชื่อเอกวิหารี [๒๒๒]


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 43]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 3 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 190

๙. เรื่องพระเถระชื่อเอกวิหารี [๒๒๒]

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระเถระ ชื่อเอกวิหารี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "เอกาสนํ" เป็นต้น.

พวกภิกษุทูลเรื่องพระเถระแด่พระศาสดา

ได้ยินว่า พระเถระนั้นได้เป็นผู้ปรากฏในระหว่างแห่งบริษัท ๔ ว่า "นั่งอยู่แต่ผู้เดียว เดินแต่ผู้เดียว ยืนแต่ผู้เดียว" ต่อมาภิกษุทั้งหลาย กราบทูลพระเถระนั้นแด่พระตถาคตว่า "พระเถระนี้ ชื่อว่ามีรูปอย่างนี้ พระเจ้าข้า"

ภิกษุพึงเป็นผู้สงัด

พระศาสดาประทานสาธุการว่า "สาธุ สาธุ" ดังนี้แล้วทรงสั่งสอนว่า "ธรรมดาภิกษุ พึงเป็นผู้สงัด" แล้วตรัสอานิสงส์ในวิเวก แล้วจึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-

๙. เอกาสนํ เอกเสยฺยํ เอโก จรมตนฺทิโต เอโก ทมยมตฺตานํ วนนฺเต รมิโต สิยา.

"ภิกษุพึงเสพที่นั่งคนเดียว ที่นอนคนเดียว, พึงเป็นผู้เดียว ไม่เกียจคร้านเที่ยวไป เป็นผู้เดียว ทรมานตน เป็นผู้ยินดียิ่งในราวป่า."

แก้อรรถ

บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า เอกาสนํ เอกเสยฺยํ ความว่า ที่นั่งของภิกษุผู้ไม่ละมูลกัมมัฏฐาน นั่งแม้ในท่ามกลางแห่งภิกษุตั้งพัน ด้วย

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 3 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 191

การทำไว้ในใจนั้นนั่นแล ชื่อว่า ที่นั่งคนเดียว. ก็ที่นอนของภิกษุผู้เข้าไป ตั้งสติไว้แล้วนอนเหนือที่นอนอันเขาปูไว้ ในปราสาทเช่นกับโลหปราสาทก็ดี ในท่ามกลางภิกษุตั้งพันรูปก็ดี เป็นที่รองผ้าลาดอันวิจิตร อันควรแก่ค่ามาก โดย (ตะแคง) ข้างขวา ด้วยมนสิการในมูลกัมมัฏฐาน ชื่อว่า ที่นอนคนเดียว. ภิกษุพึงเสพที่นั่งคนเดียว และที่นอนคนเดียวเห็นปานนั้น.

บทว่า อตนฺทิโต ความว่า ภิกษุเป็นผู้ไม่เกียจคร้าน ด้วยการอาศัยกำลังแข้งเลี้ยงชีวิต เที่ยวไปแต่ผู้เดียวในทุกๆ อิริยาบถ.

บาทพระคาถาว่า เอโก ทมยมตฺตานํ ความว่า เป็นผู้ๆ เดียวเท่านั้น ทรมานตนด้วยสามารถแห่งการตามประกอบกัมมัฏฐานในที่ทั้งหลาย มีที่พักกลางคืนเป็นต้น แล้วบรรลุมรรคและผล.

บาทพระคาถาว่า วนนฺเต รมิโต สิยา ความว่า ภิกษุเมื่อทรมานตนอย่างนั้น ชื่อว่า พึงเป็นผู้ยินดียิ่ง ในราวป่าอันสงัดจากเสียงทั้งหลาย มีเสียงสตรีและบุรุษเป็นต้นทีเดียว. เพราะภิกษุผู้มีปกติอยู่พลุกพล่าน ไม่อาจทรมานตนอย่างนั้นได้.

ในกาลจบเทศนา ภิกษุเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น. ตั้งแต่นั้นมา มหาชนย่อมปรารถนาการอยู่คนเดียวเท่านั้น ดังนี้แล.

เรื่องพระเถระชื่อเอกวิหารี จบ.

ปกิณณกวรรควรรณนา จบ

วรรคที่ ๒๑ จบ.