๙. เรื่องอุปกาชีวก [๒๔๘]
[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 321
๙. เรื่องอุปกาชีวก [๒๔๘]
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 43]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 321
๙. เรื่องอุปกาชีวก [๒๔๘]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดาทรงปรารภอาชีวกชื่ออุปกะ ในระหว่างทาง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "สพฺพาภิภู" เป็นต้น.
อุปกาชีวกทูลถามพระศาสดา
ความพิสดารว่า ในสมัยหนึ่ง พระศาสดาทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว ทรงยังกาลให้ล่วงไปที่ควงไม้โพธิ์ ๗ สัปดาห์ ทรงถือบาตรและจีวรของพระองค์ เสด็จดำเนินไปสิ้นทางประมาณ ๑๘ โยชน์มุ่งกรุงพาราณสี เพื่อทรงยังพระธรรมจักรให้เป็นไป ได้ทอดพระเนตรเห็นอาชีวกชื่ออุปกะ ในระหว่างทาง.
ฝ่ายอุปกาชีวกนั้น เห็นพระศาสดาแล้ว ทูลถามว่า "ผู้มีอายุ อินทรีย์ของท่านผ่องใสแล, ผิวพรรณก็บริสุทธิ์ผุดผ่อง ผู้มีอายุ ท่านบวชเฉพาะใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน หรือท่านชอบใจธรรมของใคร"
พระศาสดาตรัสตอบอุปกาชีวก
ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสว่า "เราไม่มีอุปัชฌาย์หรืออาจารย์" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้แก่อุปกาชีวกนั้น ว่า :-
๙. สพฺพาภิภู สพฺพวิทูหมสฺมิ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺโต สพฺพญฺชโห ตณฺหกฺขเย วิมุตฺโต สยํ อภิญฺาย กมุทฺทิเสยฺยํฯ
"เราเป็นผู้ครอบงำธรรมได้ทั้งหมด รู้ธรรมทุกอย่าง ไม่ติดอยู่ในธรรมทั้งปวง ละธรรมได้ทุกอย่าง
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 322
พ้นแล้ว ในเพราะธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา รู้เองแล้ว จะพึงอ้างใครเล่า (ว่าเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์)."
แก้อรรถ
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สพฺพาภิภู คือ ครอบงำธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓ ได้ทั้งหมด.
บทว่า สพฺพวิทู คือ ผู้มีธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๔ ทั้งปวงอันรู้แล้ว.
สองบทว่า สพฺเพสุ ธมฺเมสุ ความว่า ผู้อันตัณหาและทิฏฐิทั้งหลายฉาบทาไม่ได้ ในธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓ แม้ทั้งสิ้น.
บทว่า สพฺพญฺชโห คือ ผู้ละธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓ ทั้งหมด ดำรงอยู่.
สองบทว่า ตณฺหกฺขเย วิมุตฺโต คือผู้พ้นแล้วในเพราะพระอรหัต กล่าวคือธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา ที่ตนให้เกิดขึ้นแล้ว ในที่สุดแห่งความสิ้นไปแห่งตัณหา ด้วยวิมุตติอันเป็นของพระอเสขะ.
สองบทว่า สยํ อภิญฺาย คือรู้ธรรมต่างด้วยอภิญไญยธรรม เป็นต้นได้เองทีเดียว.
บทว่า กมุทฺทิเสยฺยํ ความว่า เราจะพึงอ้างใครเล่าว่า "นี้เป็นอุปัชฌาย์หรืออาจารย์ของเรา."
ในกาลจบเทศนา อุปกาชีวกไม่ยินดี ไม่คัดค้านพระดำรัสของพระตถาคตเลย, แต่เขาสั่นศีรษะ แลบลิ้น ยึดเอาทางที่เดินไปคนเดียว ได้ไปยังที่เป็นที่อาศัยอยู่ของนายพรานแห่งใดแห่งหนึ่งแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องอุปกาชีวก จบ.