๒๔. เรื่องพระมหาปันถกเถระ [๒๘๗]
[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 489
๒๔. เรื่องพระมหาปันถกเถระ [๒๘๗]
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 43]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 489
๒๔. เรื่องพระมหาปันถกเถระ [๒๘๗]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภพระมหาปันถกเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ยสฺส ราโค จ" เป็นต้น.
มหาปันถกะขับไล่พระผู้น้องชายจากวิหาร
ความพิสดารว่า ท่านมหาปันถกะนั้นขับไล่พระจูฬปันถกะ ผู้ไม่อาจเพื่อกระทำ (ท่อง) คาถาหนึ่งให้คล่องแคล่วได้โดย ๔ เดือน ออกจากวิหารด้วยคำว่า "เธอเป็นผู้อาภัพแม้ในพระศาสนา ทั้งเป็นผู้เสื่อมแล้วจากโภคะของคฤหัสถ์, ประโยชน์อะไรของเธอด้วยการอยู่ในวิหารนี้, เธอจงออกไปเสียจากวิหารนี้," แล้วปิดประตู.
ภิกษุทั้งหลายสนทนากันว่า "ผู้มีอายุทั้งหลาย กรรมชื่อนี้พระมหาปันถกะทำได้, ชะรอยความโกรธย่อมเกิดมีขึ้นแม้แก่พระขีณาสพทั้งหลาย."
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมกันด้วยถ้อยคำอะไรหนอ" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า "ด้วยถ้อยคำชื่อนี้" จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย กิเลสทั้งหลายมีราคะ เป็นต้น ย่อมไม่มีแก่พระขีณาสพทั้งหลาย, แต่บุตรของเราทำกรรมนั้น เพราะความที่ตนเป็นผู้มุ่งอรรถเป็นเบื้องหน้า และเพราะเป็นผู้มุ่งธรรม เป็นเบื้องหน้า" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า:-
๒๔. ยสฺส ราโค จ โทโส จ มาโน มกฺโข จ ปาติโต สาสโปริว อารคฺคา ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 490
"ราคะ โทสะ มานะและมักขะ อันผู้ใดให้ตกไปแล้ว เหมือนเมล็ดพันธุ์ผักกาดตกไปจากปลายเหล็กแหลมฉะนั้น เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นพราหมณ์."
แก้อรรถ
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อารคฺคา เป็นต้น ความว่า กิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้นเหล่านั่น และมักขะมีอันลบหลู่คุณของผู้อื่นเป็น ลักษณะนี้ อันผู้ใดให้ตกไปแล้ว เหมือนเมล็ดพันธุ์ผักกาดตกไปจากปลายเหล็กแหลมฉะนั้น, กิเลสเหล่านั้น ย่อมไม่ตั้งอยู่ในจิต เหมือนเมล็ดพันธุ์ผักกาดไม่ติดอยู่ที่ปลายเหล็กแหลมฉะนั้น, เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพระมหาปันถกเถระ จบ.