พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๒๗. เรื่องพระสารีบุตรเถระ [๒๙๐]

 
บ้านธัมมะ
วันที่  26 ก.ค. 2564
หมายเลข  35099
อ่าน  566

[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 496

๒๗. เรื่องพระสารีบุตรเถระ [๒๙๐]


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 43]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 3 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 496

๒๗. เรื่องพระสารีบุตรเถระ [๒๙๐]

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระสารีบุตรเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อาสา ยสฺส" เป็นต้น.

พวกภิกษุเข้าใจว่าพระสารีบุตรยังมีตัณหา

ได้ยินว่า พระเถระนั้นมีภิกษุประมาณ ๕๐๐ เป็นบริวาร ไปสู่วิหารแห่งหนึ่งในชนบท แล้วเข้าจำพรรษา.

มนุษย์ทั้งหลาย เห็นพระเถระแล้ว ตระเตรียมผ้าจำนำพรรษาไว้เป็นอันมาก. พระเถระปวารณาแล้ว เมื่อผ้าจำนำพรรษาทั้งปวงยังไม่ทันถึง (แก่ท่าน) นั่นเทียว, เมื่อจะไปสู่สำนักพระศาสดา สั่งกะภิกษุทั้งหลายไว้ว่า "เมื่อผ้าจำนำพรรษาอันมนุษย์ทั้งหลายนำมาแล้วเพื่อภิกษุหนุ่มและสามเณรทั้งหลาย พวกท่านรับไว้แล้วเพื่อส่งไป, หรือเก็บไว้แล้วพึงส่งข่าวไป." ก็แลพระเถระ ครั้นสั่งอย่างนี้แล้ว ได้ไปสู่สำนักพระศาสดา.

ภิกษุทั้งหลายสนทนากันว่า "ถึงทุกวันนี้ตัณหาของพระสารีบุตรเถระ ชะรอยจะยังมีอยู่แน่, จริงอย่างนั้น พระเถระสั่งไว้แก่ภิกษุทั้งหลายว่า เมื่อพวกมนุษย์ถวายผ้าจำนำพรรษาแล้ว, พวกท่านพึงส่งผ้าจำนำพรรษาไป แก่พวกสัทธิวิหาริกของตน, หรือเก็บไว้แล้วพึงส่งข่าวไป ดังนี้แล้ว จึงมา."

พระศาสดาเปลื้องความเข้าใจผิดของพวกภิกษุ

พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยกถาอะไรหนอ" เมื่อภิกษุทั้งหลายนั้นกราบทูลว่า

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 3 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 497

"ด้วยกถาชื่อนี้," จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ตัณหาย่อมไม่มีแก่บุตรของเรา, แต่เธอกล่าวอย่างนั้น ก็ด้วยคิดว่า ก็ความเสื่อมจากบุญของพวกมนุษย์และความเสื่อมจากลาภที่ชอบธรรม ของภิกษุหนุ่มและสามเณรทั้งหลายอย่าได้มี" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-

๒๗. อาสา ยสฺส น วิชฺชนฺติ อสฺมิํ โลเก ปรมฺหิ จ นิราสยํ วิสํยุตฺตํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

"ความหวังของผู้ใด ไม่มีในโลกนี้และโลกหน้า, เราเรียกผู้นั้น ซึ่งไม่มีความหวัง พราก (กิเลส) ได้ แล้วว่า เป็นพราหมณ์."

แก้อรรถ

ตัณหา ชื่อว่า อาสา ในพระคาถานั้น.

บทว่า นิราสาสํ (๑) ได้แก่ ไม่มีตัณหา.

บทว่า วิสํยุตฺตํ ความว่า เราเรียกผู้พรากได้แล้วจากกิเลสทั้งปวงนั้นว่า เป็นพราหมณ์.

ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.

เรื่องพระสารีบุตรเถระ จบ.


(๑) บาลีเป็น นิราสยํ.