สโมธานกถา (จริยาปิฎก) สรุปการบำเพ็ญบารมี ๓๐ ข้อ
เล่มที่ 74 [เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓
สโมธานกถา 36/555
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 74]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้า 555
สโมธานกถา
สรุปการบำเพ็ญบารมี ๓๐ ข้อ
[๓๖] การบำเพ็ญบารมีอันเป็นเครื่องบ่มพระโพธิญาณเหล่านี้ จัดเป็นบารมี ๑๐ อุปบารมี ๑๐ ปรมัตถบารมี ๑๐ คือการบำเพ็ญทานในภพที่ตถาคตเป็นพระเจ้าสิวิราชผู้ประเสริฐเป็นทานบารมี ในภพที่เราเป็นเวสสันดรและเป็นเวลามพราหมณ์ เป็นทานอุปบารมี ในภพที่เราเป็นอกิตติดาบสอดอาหารนั้นเป็นทานอุปบารมี ในภพที่เราเป็นพระยาไก่ป่า สีลวนาคและพระยากระต่าย เป็นทานปรมัตถบารมี ในภพที่เราเป็นพระยาวานร ช้างฉัททันต์ และช้างเลี้ยงมารดา เป็นศีลบารมี พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้แสวงหาคุณยิ่งใหญ่ตรัสไว้ดังนี้ การรักษาศีลในภพที่เราเป็นจัมเปยยกนาคราช และภูริทัตตนาคราช เป็นศีลอุปบารมี ในภพที่เราเป็นสังข
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้า 556
ปาลบัณฑิต เป็นศีลปรมัตถบารมี ในภพที่เราเป็นยุธัญชยกุมาร มหาโควินทพราหมณ์ คนเลี้ยงช้าง อโยฆรราชโอรส ภัลลาติ สุวรรณสาม มฆเทวะและเนมิราช บารมีเหล่านี้เป็นอุปบารมี ในภพที่เราเป็นมโหสถผู้เป็นทรัพย์ของรัฐ กุณฑลตัณฑิละและนกกระทา บารมีเหล่านี้เป็นปัญญาอุปบารมี ในภพที่เราเป็นวิธูรบัณฑิตและสุริยพราหมณ์มาตังคะ ผู้เป็นศิษย์เก่าของอาจารย์ บารมีทั้ง ๒ ครั้งนี้ เป็นปัญญาบารมี ในภพที่เราเป็นพระราชาผู้มีศีล มีความเพียร เป็นผู้ก่อให้เกิดสัตตุภัสตชาดก บารมีนี้แลเป็นปัญญาปรมัตถบารมี ในภพที่เราเป็นพระราชาผู้มีความเพียร บากบั่น เป็นวีริยปรมัตถบารมี ในภพที่เราเป็นพระยาวานร ผู้มีครุธรรม ๕ ประการ เป็นวีริยบารมี ในภพที่เราเป็นธรรมปาลกุมาร เป็นขันติบารมี ในภพที่เราเป็นธรรมิกเทพบุตร ทำสงครามกับ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้า 557
อธรรมิกเทพบุตร เรียกว่าขันติอุปบารมี ในภพที่เราเป็นขันติวาทีดาบสแสวงหาพุทธภูมิ ด้วยการบำเพ็ญขันติบารมี ได้ทำกรรมที่ทำได้ยากเป็นอันมาก นี้เป็นขันติปรมัตถบารมี ในภพที่เราเป็นสสบัณฑิต นกคุ่ม ซึ่งประกาศคุณสัจจะยังไฟให้ดับด้วยสัจจะ นี้เป็นสัจจบารมี ในภพที่เราเป็นปลาอยู่ในน้ำ ได้ทำสัจจะอย่างสูง ยังฝนให้ตกใหญ่ นี้เป็นสัจจบารมีของเรา ในภพที่เราเป็นสุปารบัณฑิตผู้เป็นนักปราชญ์ ยังเรือให้ข้ามสมุทรจนถึงฝั่ง เป็นกัณหทีปายนดาบส ระงับยาพิษได้ด้วยสัจจะ และเป็นวานรข้ามกระแสแม่น้ำคงคาได้ด้วยสัจจะ นี้เป็นสัจอุปบารมีของเรา ในภพที่เราเป็นสุตโสมราชา รักษาสัจจะอย่างสูง ช่วยปล่อยกษัตริย์ ๑๐๑ นี้ เป็นสัจปรมัตถบารมี อะไรที่จะเป็นความพอใจไปกว่าอธิษฐาน นี้เป็นอธิษฐานบารมี ในภพที่เราเป็น
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้า 558
มาตังคชฎิล และช้างมาตังคะ นี้เป็นอธิษฐานอุปบารมี ในภพที่เราเป็นมูคผักขกุมาร เป็นอธิษฐานปรมัตถบารมี ในภพที่เป็นมหากัณหฤาษี และพระเจ้าโสธนะ และบารมีสองอย่าง คือในภพที่เราเป็นพระเจ้าพรหมทัตและคัณฑิติณฑกะ ที่กล่าวแล้วเป็นเมตตาบารมี ในภพที่เป็นโสณนันทบัณฑิตผู้ทำความรัก บารมีเหล่านั้นเป็นเมตตาอุปบารมี ในภพที่เราเป็นพระเจ้าเอกราช เป็นบารมีไม่มีของผู้อื่นเหมือน นี้เป็นเมตตาปรมัตถบารมี ในภพที่เราเป็นนกแขกเต้าสองครั้ง เป็นอุเบกขาบารมี ในภพที่เราเป็นโลมหังสบัณฑิต เป็นอุเบกขาปรมัตถบารมี บารมีของเรา ๑๐ ประการนี้ เป็นส่วนแห่งโพธิญาณอันเลิศ บารมียิ่งกว่า ๑๐ ไม่มีหย่อนกว่า ๑๐ ก็ไม่มี เราบำเพ็ญบารมีทุกอย่างไม่ยิ่งไม่หย่อน เป็นบารมี ๑๐ ประการ ฉะนี้แล.
จบ สโมธานกถา